ปลดล็อก "กัญชง-กัญชา" เกษตรกร ปชช.ทั่วไปแห่อบรม หวังไปต่อยอดปลูกพืชเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในการขออนุญาตปลูกเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ อาหาร และเครื่องดื่ม ให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และได้ผลตอบแทนสูงสุด
จากกรณีกระแสเสรีกัญชาทางการแพทย์ รวมถึงการแจ้งปลูกกัญชาในครัวเรือน สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงจดแจ้ง เพื่อแสดงความจำนงว่าจะปลูกที่ไหน กี่ต้น ตามการพิจารณากฎหมาย ทำให้การปลูก "กัญชา กัญชง" กลับมาคึกคัก เพราะส่วนใหญ่รอความคืบหน้าการออกกฎหมาย และการประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 พ.ศ. 2565 ปลดกัญชาออกจากยาเสพติด ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ลงนามเรียบร้อยแล้ว และประกาศนี้จะมีผลบังคับใช้ใน 120 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ความคืบหน้าเรื่องนี้ (10 ก.พ.) นายธวัช จรุงพิรวงศ์ ประธานวิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centers ซึ่งเป็นวิทยากรในการอบรม กล่าวว่า การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการขออนุญาตปลูกกัญชา กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ อาหาร และเครื่องดื่ม” น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมาก จากปกติมีหัวข้อการอบรม ที่สำคัญได้แก่ การจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน ประโยชน์และโทษของสารเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) การขออนุญาตปลูกและสถานที่ปลูกให้ถูกต้องตามกฎหมาย การเลือกสายพันธุ์กัญชาและกัญชง การเลือกโรงเรือนในการปลูก การปลูกกัญชาให้ได้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพ การปลูก ดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว และแปรรูปกัญชา เป็นต้น ก็มีการเพิ่มเติมความรู้ความเข้าใจในการขออนุญาตปลูกหรือจดแจ้ง สำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งมีขั้นตอนที่ง่ายขึ้น รวมทั้งการอัปเดตความเคลื่อนไหวในการขออนุญาตปลูกทั้งบุคคล และวิสาหกิจชุมชน
...
"จากความรู้และประสบการณ์ที่ผมจัดอบรมมาอย่างต่อเนื่อง ผมเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญของการปลูก การแปรรูป และการจำหน่าย กัญชา กัญชงในประเทศไทยในมิติต่างๆ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถแจ้งปลูกกัญชาในครัวเรือนได้ง่ายขึ้นนั้นจะเปลี่ยนโฉมของกัญชา ซึ่งเดิมเป็นยาเสพติดให้มีการนำมาใช้บำบัดรักษาโรคตามภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทย แต่ต้องไม่เอามาใช้เป็นยาเสพติด ซึ่งหลักเกณฑ์ต่างๆ คงต้องรอความคืบหน้าจากกระทรวงสาธารณสุข โดยเบื้องต้นจะมีการผลักดันให้สามารถจดแจ้งผ่านแอปพลิเคชันได้"
นอกจากนี้ในแง่การปลูกเชิงพาณิชย์ ระหว่างช่องว่าง 120 วันนี้ ยังสามารถรวมตัวกันในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน 7 คน แล้วขออนุญาตปลูกได้ซึ่งต้องได้รับอนุญาตตามขั้นตอน และหลักเกณฑ์ต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งจำเป็นต้องรู้ขั้นตอนเช่นเดียวกัน ดังนั้น การอบรมจึงต้องให้ความรู้ความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการทำให้ประชาชนและเกษตรกรที่สนใจเดินถูกทาง ไม่เสียเวลา และสามารถขออนุญาตปลูกกัญชา กัญชงได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกกฎหมายในที่สุด
ประธานวิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centers กล่าวต่อว่า ไม่ว่ากฎหมายจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่หลักสำคัญของการปลูกกัญชา กัญชง ยังจำเป็นที่ต้องอาศัยหลักวิชาการที่ถูกต้อง เพื่อทำให้การปลูกมีปัญหาน้อยที่สุด ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และได้ผลตอบแทนสูงสุด นอกจากนี้ การอบรมเรายังจะนำเสนอให้ได้เห็นมุมมองการต่อยอดการผลิตในเชิงธุรกิจสู่อาหาร เครื่องสำอาง และเครื่องดื่ม ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงมากในปี 2565 นี้อีกด้วย
"หลักสูตรการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการขออนุญาตปลูกกัญชา กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ อาหาร และเครื่องดื่ม” เปิดให้อบรมทุกวันอาทิตย์ เวลา 9.00 – 15.00 น. ณ ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centers หมู่ 2 ตำบลไทรม้า อำเภอเมืองนนทบุรี ผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Thai Herb Centers (facebook.com/thccenters) โทร. 083-979-9389 Line ID : @Thaiherbcenters
ทั้งนี้ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับดังกล่าวออกตามความในประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ส่งผลให้รายชื่อยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (ยส.5) จะเหลือเพียง พืชฝิ่น เห็ดขี้ควาย หรือพืชเห็ดขี้ควาย และสารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis ที่มีปริมาณสารทีเอชซี (THC) เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก โดยเจตนารมณ์หลักคือการใช้เพื่อการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการใช้กัญชาเพื่อรักษาสุขภาพของตนเอง และการต่อยอดให้เป็นพืชเศรษฐกิจ
...
ระหว่างรอรายละเอียดและหลักเกณฑ์ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่จะประกาศในราชกิจจานุเบกษา เกษตรกร ประชาชน และผู้ที่สนใจธุรกิจ กัญชา กัญชง มีการตื่นตัวเกินคาด ต่างมีความหวังว่าจะสามารถแจ้งปลูกในบ้านเพื่อนำมาใช้บำบัดรักษาโรค รวมทั้งยังหวังว่ากัญชา กัญชง จะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะในแง่ของความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนนโยบายเสรีกัญชาทางการแพทย์ ที่การขอปลูกจะมีขั้นตอนที่ง่ายขึ้น
...