ชาวบ้านโร่แจ้งความถูกเมียรองนายก อบต.หลอกกู้เงินธนาคาร อ้างใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว สมัครผ่านแอปไม่ยุ่งยาก เหยื่อพากันหลงเชื่อ สุดท้ายได้แต่ใบแจ้งหนี้หลายแสนบาท พร้อมยอดชำระเงินงวดงวดละ 6-7 พันบาท ทั้งที่ยังไม่ได้รับเงิน ตำรวจตรวจสอบพบผู้เสียหายเกือบ 100 คน ก่อนแจ้งผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำ แต่ยังไม่ยอมมาพบ ด้านผู้บริหารธนาคารสาขายอมรับทำกันเป็นขบวนการ
ชาวบ้านแห่แจ้งจับเมียรองนายก อบต.หลอกกู้เงินแบงก์ต้องรับภาระหนี้หลายแสนบาท เปิดเผยเมื่อตอนสายวันที่ 5 ต.ค.ชาวบ้านเนินสง่า หมู่ 13 และชาวบ้านคลองน้ำใส หมู่ 2 ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว พากันแจ้งความต่อ ร.ต.ท.หญิงเกศรินทร์ วีระพันธุ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้วว่า ถูกภรรยารองนายก อบต.แห่งหนึ่งหลอกให้ทำเรื่องกู้เงินจากธนาคารกสิกรไทย สาขาสระแก้ว แต่ชาวบ้าน ไม่ได้รับเงิน และยังถูกธนาคารส่งใบแจ้งหนี้ให้ไปชำระเงินกู้รายงวด รวมยอดคนละหลายแสนบาท
สองสามีภรรยาบ้านเนินสง่าอาชีพค้าขาย ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีภรรยานักการเมืองท้องถิ่นเป็นรองนายก อบต.แห่งหนึ่งมาติดต่อสอบถามว่าอยากได้เงินแสนหรือไม่ โดยใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวสามารถยื่นกู้เงินได้ โดยสมัครทางแอปพลิเคชัน เคพลัสของธนาคารกสิกรไทย ไม่เกิน 7 วันจะได้รับเงินแน่นอนและจะมีใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินแค่ 3 เดือน ทำให้ทั้งสองหลงเชื่อนำบัตรประชาชนให้ไป โดยอ้างว่าจะนำไปเช็กเครดิตบูโร ผ่านไปไม่กี่วันเมียรองนายก อบต.ติดต่อให้ไปสแกนหน้าที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งบ้านเขาแผงม้า จ.นครราชสีมา อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ธนาคารมาดำเนินการให้
หลังผ่านไปเกือบ 2 เดือนมีใบแจ้งหนี้จากธนาคารแจ้งว่าสามีเป็นหนี้ธนาคาร 260,000 บาท ส่วนภรรยาเป็นหนี้ 240,000 บาท รวมแล้วทั้งคู่เป็นหนี้ถึง 500,000 บาท มียอดชำระงวดละ 6,000-7,000 บาท ทั้งๆที่ยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว โดยมีชาวบ้านโดนหลอกลักษณะเดียวกันอีกหลายรายยอดกู้ตั้งแต่ 200,000-370,000 บาท บางคนได้รับเงินสดมาบางส่วน แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับ ตัดสินใจเข้าแจ้งความให้ตำรวจเรียกเมียรองนายกอบต.คนดังกล่าวมาสอบสวน
...
ขณะที่ชาวบ้านคลองน้ำใส กล่าวว่า ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทำให้ข้าวยากหมากแพง พอมีคนมาแนะนำ เห็นว่าเป็นภรรยานักการเมืองท้องถิ่น เมื่อมีโอกาสกู้เงินจากโครงการของธนาคารที่มีชื่อเสียง มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากแค่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวจึงตัดสินใจชักชวนญาติพี่น้องอีกกว่า 10 คนเข้าร่วมโครงการ โดยได้รับเงินสด มา 85,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบกับธนาคารกสิกรไทยพบว่าตัวเองเป็นหนี้มากถึง 330,000 บาท
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเขตรับผิดชอบของ สภ.ปางสีดา อ.เมืองสระแก้ว ก่อนประสานให้ชาวบ้านไปให้ปากคำพบมีผู้เสียหายถูกหลอกเกือบ 100 คน ตำรวจจะทำหนังสือถึงธนาคารเพื่อขอตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงินของชาวบ้านในแต่ละบัญชี พร้อมเรียกตัวเมียรองนายก อบต.ที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ แต่ยังไม่พร้อมมาพบพนักงานสอบสวน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องดังกล่าวไปทางผู้บริหารธนาคารกสิกรไทย สาขาสระแก้ว ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีการทำกันเป็นขบวนการและเป็นผู้มีอิทธิพล ขณะนี้ได้แจ้งปัญหาไปยังสำนักงานใหญ่แล้ว แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดได้