นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยกรณีมีการกล่าวหาว่ากรมศิลปากรว่ามีส่วนทำให้โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ซึ่งกระทบมรดกโลกพระนครศรีอยุธยา ล่าช้า ว่า กรมศิลปากรไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน เนื่องจากไม่เคยมีการเชิญประชุมในคณะทำงานหรือสอบถามความคิดเห็นถึงการดำเนินงานมาก่อน อย่างไรก็ตาม สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา เคยให้ความเห็นว่าโครงการฯ มีงานก่อสร้างอาคารสถานีขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 45 เมตร และอยู่ในเกณฑ์ที่อาจทำให้เกิดผลกระทบกับโบราณสถานและมรดกโลกอยุธยามาตลอด

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กรมศิลปากร เคยได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่าพื้นที่โครงการอยู่ในเขตโบราณสถาน และอยู่ใกล้เขตมรดกโลกพระนครศรีอยุธยา และขอให้พิจารณาทางเลือกการออกแบบสถานีที่เหมาะสมอีกครั้ง เช่น ปรับลงเป็นทางลอดใต้ดิน หรือเบี่ยงไปใช้เส้นทางใหม่หรือย้ายที่ตั้งสถานี และไม่เห็นด้วยกับรูปแบบสถานีที่มีการนำเสนอ และขอให้การรถไฟส่งรายละเอียดรูปแบบรางและอาคารสถานีในแนวเส้นทางรถไฟ

ตลอดทั้งเส้นให้กรมศิลปากรตรวจสอบ และขอให้มีนำเสนอต่อคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกด้วยโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ มีส่วนเข้าใกล้พื้นที่มรดกโลกพระนครศรีอยุธยา จึงควรให้ความสำคัญต่อบริบทความเป็นมรดกโลกของพื้นที่ และต้องศึกษาผลกระทบต่อมรดกทางวัฒนธรรม หรือ HIA รวมถึงการจัดทำการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) ตามความจำเป็น ซึ่ง กรมศิลปกรยืนยันว่าทำงานตามนโยบายของรัฐบาลและศูนย์มรดกโลกที่มีความห่วงใยในแหล่งมรดกโลก ซึ่งไม่มีวาระแอบแฝงใดๆทั้งสิ้น” นายประทีปกล่าว.

...