ชุดสืบสวนภาค 1 ทลายแก๊งลักรถเมืองกรุงเก่า ออกล่าเหยื่อตามลานจอดรถในห้างสรรพสินค้า ใช้เครื่องมือตัดสัญญาณรีโมตล็อกประตูรถ หากเจ้าของไม่ทันสังเกตว่ารถตัวเองไม่ได้ล็อกแล้วเดินเข้าห้างไปก็เสร็จโจร โดนต่อสายตรงเชิดรถไปสบายเฉิบ เอาไปขายต่อให้คนรับซื้อราคา 5 หมื่นถึง 1 แสนบาท ก่อนที่คนรับซื้อจะส่งออกเขมรได้ราคาคันละ 1 แสนถึง 1.5 แสนบาท จับกุมยกแก๊ง 4 คน สารภาพส่วนใหญ่เลือกรถกระบะโตโยต้าขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นที่นิยมของลูกค้า
ปฏิบัติการทลายแก๊งลักรถที่ บช.ภ.1 เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 31 มี.ค. พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองจเรตำรวจ ช่วยราชการรอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พลฑิต ไชยรส ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำ รองผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม ผกก.3 สส.ภ.1 ร่วมแถลงข่าวตำรวจสืบสวนภาค 1 สืบสวนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สืบสวน สภ.พระอินทร์ราชา สืบสวน สภ.บางปะอิน จับกุมแก๊งลักรถยนต์ ผู้ต้องหา 4 คนประกอบด้วยนายพิชิตชัย บุญมี อายุ 36 ปี นายวิเชียน สนทีรัก อายุ 38 ปี นายนิคม สายบุญจันทร์ อายุ 51 ปี และนายกมล ชลวิหารพันธ์ อายุ 64 ปี พร้อมของกลางรถกระบะโตโยต้ารีโว่ สีดำ ทะเบียน ผข 3266 นครสวรรค์ ที่ใช้ขับไปก่อเหตุ โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม เสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุ 1 ชุด กล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือรับของโจร
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากช่วงเดือน พ.ย.63 ถึงเดือน ก.พ.64 มีแก๊งคนร้ายก่อเหตุลักรถยนต์ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลายครั้ง ตำรวจสืบสวนหาเบาะแสจนทราบว่าคนร้ายคือนายพิชิตชัย จึงติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านใน จ.ปทุมธานี ก่อนติดตามจับกุมตัวนายวิเชียน ได้ที่บ้านใน จ.นครสวรรค์
...
สอบสวนนายพิชิตชัย หัวหน้าแก๊งรับสารภาพว่า ร่วมกับนายวิเชียน ขับรถตระเวนหาเหยื่อตามลานจอดรถห้างสรรพสินค้า เมื่อพบรถเป้าหมายขับเข้ามาจอดจะเฝ้ารอเจ้าของรถลงจากรถและกดรีโมตปิดล็อกประตูรถ จังหวะนั้นจะกดเครื่องตัดสัญญาณไม่ให้ประตูล็อก พอผู้เสียหายไม่ทันสังเกตว่ารถตัวเองไม่ได้ล็อกแล้วเดินเข้าห้างไป ตนจะเข้าไปในรถถอดเบ้ากุญแจแล้วต่อสายตรงขับหลบหนีไป ส่วนนายวิเชียนทำหน้าที่สะกดรอยตามเจ้าของรถเพื่อดูว่าเดินเลือกซื้อสินค้าในห้างนานแค่ไหน จะแจ้งบอกตนหากเดินกลับมาที่รถก่อน หลังจากได้รถแล้วจะนำไปเปลี่ยนแปลงสภาพไปจากเดิมเพื่อตบตาตำรวจก่อนนำไปส่งให้ผู้รับซื้อคือนายนิคมและนายกมล ราคาคันละ 50,000 ถึง 100,000 บาท ตามแต่สภาพ
ต่อมาตำรวจติดตามไปจับกุมตัวนายนิคม และนายกมล ได้ที่บ้านใน จ.สระแก้ว และ จ.สระบุรี ทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า รับซื้อรถจากนายพิชิตชัยนำส่งออกไปขายต่อประเทศกัมพูชาราคาคันละ 100,000 ถึง 150,000 บาท ส่วนใหญ่ที่ลูกค้านิยมจะเป็นรถกระบะโตโยต้าแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ หลังสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่ง สภ.พระอินทร์ราชา ดำเนินคดี