ประชาชนเดินทางกลับจากฉลองเทศกาลปีใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่การจราจรค่อนข้างคล่องตัว ขณะที่เส้นทางสู่ภาคตะวันออกเจอพิษโควิดเต็มเปา รถโล่งตั้งแต่วันแรกของเทศกาล โดยเฉพาะมอเตอร์เวย์รถโหรงเหรงแทบกลายเป็นถนนร้าง ขณะที่ยอดการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะลดฮวบไปเกือบครึ่ง ศปถ.เผยสถิติรายวัน เกิดอุบัติเหตุ 383 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 44 ราย ผู้บาดเจ็บ 384 คน สะสม 5 วัน เกิดอุบัติเหตุ 2,748 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 316 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,741 คน สาเหตุเมาแล้วขับ

การเดินทางกลับจากฉลองเทศกาลปีใหม่ของประชาชนในวันหยุดสุดท้าย รถไม่ติดหนึบอย่างที่คิด ขณะที่ยอดตายเจ็บยังเพิ่มต่อเนื่องเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ม.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) วันที่ 2 ม.ค. เกิดอุบัติเหตุทางถนน 383 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 44 ราย ผู้บาดเจ็บ 384 คน จังหวัด

ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ ร้อยเอ็ด 20 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดคือ กทม. เชียงราย เชียงใหม่ จังหวัดละ 3 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดคือ ร้อยเอ็ด 21 คน สะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.-2 ม.ค.) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,748 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 316 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,741 คน สาเหตุมาจากขับรถขณะเมาสุรา รองลงมาคือขับรถเร็ว มีการเรียกตรวจยานพาหนะ 529,869 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 117,106 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 31,305 ราย ไม่มีใบขับขี่ 28,884 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดคือ เชียงใหม่ 97 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดคือ นครราชสีมา 16 ราย

...

นายชยธรรม์กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ คาดว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางกลับเป็นจำนวนมาก ทำให้เส้นทางสายหลักจากภูมิภาคต่างๆที่มุ่งเข้าสู่ กทม. และเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด มีปริมาณรถหนาแน่น บางเส้นทางอาจมีการจราจรติดขัด ประกอบกับผู้ขับขี่อาจมีอาการอ่อนล้าจากเฉลิมฉลอง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุง่วงหลับใน ศปถ.กำชับให้จังหวัดเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานของจุดตรวจบนเส้นทาง สายหลัก ถนนสายรอง เส้นทางลัด และเส้นทางเลี่ยงเมือง บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงเรียกตรวจเพื่อประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ และเน้นย้ำมาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ นายชยธรรม์เปิดเผยถึงการเดินทางของประชาชนช่วงปีใหม่ 29 ธ.ค.63-3 ม.ค.64 ว่า มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 6,946,426 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 40.18 ปริมาณการจราจรเข้า-ออกกรุงเทพฯ 9,538,928 คัน ต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 24.14 เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล 9,085,789 คัน คิดเป็นร้อยละ 95.25 เกิดอุบัติเหตุบนถนนในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม 1,262 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 195 ราย บาดเจ็บ 1,309 ราย สาเหตุสำคัญเกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนด คิดเป็นร้อยละ 62.20 โดยรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุสูงสุดร้อยละ 52.30

นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า เข้าสู่วันที่ 5 ของการควบคุมเข้มงวด 2 ม.ค.64 มีจำนวนคดีที่เข้าสู่งานคุมประพฤติพุ่งสูงถึง 1,168 คดี เป็นคดีขับรถในขณะเมาสุรา 1,162 คดี ขับเสพ 5 คดี และคดีขับรถประมาท 1 คดี ทำให้ยอดสถิติคดีสะสมรวม 2,196 คดี จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 2,073 คดี คดีขับเสพ 105 คดี คดีขับรถประมาท 18 คดี จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ 309 คดี จังหวัดจันทบุรี 182 คดี และจังหวัดนครราชสีมา 153 คดี

ด้านการเดินทางกลับจากฉลองเทศกาลปีใหม่ตามภูมิภาคต่างๆเพื่อมาทำงานตามปกติในพื้นที่กรุงเทพฯและจังหวัดข้างเคียงโดยถนนมิตรภาพผ่าน จ.นครราชสีมาช่วงทางต่างระดับสีคิ้ว ต่อเนื่องจนเขต อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี รถหนาแน่นตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 2 ม.ค. ต่อเนื่องจากถึงเช้ามืดรถเบาบางลง แต่ยังมีรถใช้เส้นทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่องคาดว่ารถจะหนาแน่นอีกครั้งในตอนหัวค่ำ เส้นทางสายเหนือผ่าน จ.นครสวรรค์ ถนนพหลโยธินหมายเลข 1 ถนนทางหลวงหมายเลข 117 (นครสวรรค์-พิษณุโลก) และถนนเลี่ยงเมืองหมายเลข 122 ปริมาณรถเพิ่มมากขึ้นทุกเส้นทาง แต่รถยังคงไหลได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนถนนสายเอเชียผ่าน จ.อ่างทอง ตั้งแต่ช่วง อ.ไชโย กระทั่งถึง อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา การจราจรคล่องตัว เช่นเดียวกับถนนเพชรเกษมผ่าน จ.เพชรบุรี การจราจรคล่องตัว มีสะสมช่วงแยกสัญญาณจราจรตามชุมชนขนาดใหญ่

ส่วนถนนสาย 304 ตั้งแต่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เข้าพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี การจราจรคล่องตัว มีเพียงช่วงสามแยกถนน 304 เชื่อมกับถนนสาย 359 ที่มีรถติดสะสม เนื่องจากมีการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยก ตำรวจต้องเปิดช่องทางพิเศษเร่งระบายรถ ขณะที่เส้นทางสู่ภาคตะวันออก เช่นถนนสุขุมวิท ถนนมอเตอร์เวย์หรือทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) ถนนโล่งทั้งสองฝั่งตั้งแต่ช่วงก่อนหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากเป็นพื้นที่แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส-โควิด โดยเฉพาะถนนมอเตอร์เวย์ รถค่อนข้างโหรงเหรงนับคันได้ ส่วนจุดจอดรถมอเตอร์เวย์เขาดิน ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ และฝั่งขาออก แทบจะไม่มีคนเข้ามาใช้บริการเลย

...

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล. นั่ง ฮ.ตรวจการจราจรและจุดคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิดในพื้นที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ตรวจจุดคัดกรอง หนองเสม็ด จุดปิด-เปิด ช่องทางพิเศษ กม.80 ทางหลวง 348 พบว่ารถมีปริมาณจำนวนมากสั่งการให้ตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ ตำรวจโนนดินแดง และตำรวจตาพระยา จัดการจราจรช่องทางพิเศษบริเวณช่องเขาตะโก พร้อมเพิ่มมาตรการคัดกรองรถโดยสารที่มาจาก จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี รวมถึงภาคตะวันออก ภายหลังออกตรวจสภาพการจราจรขาเข้ากรุงเทพฯ ทางหลวง 2 (มิตรภาพ) ต่างระดับสีคิ้ว ต่างระดับเขาใหญ่ เนินกลางดง ต่างระดับสระบุรี (พหลโยธิน) จุดเชื่อมต่อบายพาส-สระบุรี จุดก่อสร้างสะพานกลับรถ, ทล.32 กม.0 (เอเชีย) เชื่อมต่อ ทล.1 (ต่างระดับบางปะอิน) และ ทล.1 เชื่อมต่อ ทลพ.9 (วงแหวนตะวันออก)

ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ก่อนเปิดทำงานวันแรกเริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้า กทม.โดยปีนี้ไม่หนาแน่นเหมือนที่ผ่านๆมา ทั้งผู้โดยสารที่ลงรถทุกคนจะต้องผ่านการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ และรับเจลแอลกอฮอล์ล้างมือก่อนที่จะเดินทางออกจากสถานี ส่วนที่สถานีรถไฟหัวลำโพงคึกคักไปด้วยประชาชนที่ทยอยเดินทางกลับมาประกอบสัมมาชีพตามปกติ หลายคนหอบหิ้วข้าวสารอาหารแห้งจากบ้านเกิดมาบริโภคเพื่อลดค่าใช้จ่าย อาทิ นายโกศล ศรีสวัสดิ์ วัย 53 ปี ชาว จ.พิจิตร ที่หอบข้าวสารและข้าวเหนียวลงมาจากรถไฟ กล่าวว่า กลับบ้านปีนี้รู้สึกได้ถึงความหวาดระแวง ญาติพี่น้องเพื่อนบ้านบางคนถึงขนาดมาถามว่าช่วงอยู่ กทม. ได้ไปในจุดที่มีข่าวเกิดการระบาดหรือเปล่า มีความเสี่ยงหรือเปล่า แต่ก็เข้าใจเพราะทุกคนอยู่ในความวิตก