หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ พูดถึงกระแสบริจาคเงินคนละ 9 บาท เกิดจากลูกศิษย์จัดทอดผ้าป่าบริจาคทำบุญวันเกิดในวันที่ 9 ธันวาคม ทุกปี แต่ปีนี้น่าจะมีการแชร์ บอกบุญต่อๆ กันไป ยืนยันทุกบัญชีของจริง เงินเข้าวัดทั้งหมดไม่มีรั่วไหล
กรณีสังคมออนไลน์ มีการแชร์ และบริจาคเงินให้วัดพระบาทน้ำพุ คนละ 9 บาท เพื่อช่วยเหลือทางวัดนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมือง ลพบุรี กราบนมัสการสอบถามหลวงพ่ออลงกต ถึงความเป็นมาของเรื่องดังกล่าว
หลวงพ่ออลงกต กล่าวว่า เพิ่งทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เมื่อวานนี้ และขอชี้แจงให้ทราบว่า เรื่องดังกล่าวเกิดจากลูกศิษย์ ลูกหลานของหลวงพ่อ ที่ทุกปี ในวันคล้ายวันเกิดวันที่ 9 ธันวาคม ลูกศิษย์หลายรุ่น ลูกหลานหลายคน จะมีการนำผ้าป่ามาทอดที่วัดพระบาทน้ำพุ เพื่อนำเงินมอบให้กับทางวัดไว้ใช้จ่ายกับผู้ป่วย
“เข้าใจว่าลูกหลานบางคนได้สื่อโซเชียล เน็ตเวิร์ก ผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ *494222 แล้วกดโทรออกเพื่อบริจาคเงินจำนวน 9 บาทช่วยเหลือทางวัด โดยมีบริษัท เอไอเอส ได้ทำไว้นานแล้ว บุคคลภายนอกที่เห็น ก็ได้แชร์ต่อกันไป จนเกิดกระแส 9 บาท”
หลวงพ่อ กล่าวต่อว่า หมายเลขบัญชีทั้งหมดที่ลงในโซเชียล ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเช็กแล้ว ถูกต้องทุกเบอร์ เป็นบัญชีจริง ที่วันนี้ ก็มีการแชร์มากมายเนื่องจากเป็นวันเอดส์โลก ล้วนเป็นเจตนาดีของลูกหลาน ลูกศิษย์หลวงพ่อที่ทำขึ้นมา ไม่ได้สร้างกระแสด้วยเจตนาอื่น ซึ่งหลวงพ่อมองว่าเงิน 9 บาทที่ขอบริจาคนั้น มีแต่คนแชร์ต่อ เพื่อบอกบุญ ขอร่วมทำบุญกันอย่างต่อเนื่อง
...
ส่วนกระแสต่างๆ ของวัดพระบาทน้ำพุ ในด้านบวกและลบ ก็มีอยู่แทบทุกวัน ไม่อาจปิดกั้นความคิดของใครได้ ถือเป็นเรื่องของส่วนบุคคล แต่เจตนาของลูกหลานที่ทำกระแส 9 บาทขึ้นมาล้วนเป็นบุญของลูกหลานทั้งสิ้น
จากนั้นหลวงพ่อได้ให้พรกับพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนให้มีกำลังใจต่อสู้ในช่วงวิกฤติ ทั้งเชื้อไวรัส โควิด-19 ปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ ขอให้ทุกคนมีกำลังใจต่อสู้ให้ชาติรอดพ้นไปได้ด้วยกัน
เมื่อสอบถามถึงอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเมื่อหลายเดือนก่อน หลวงพ่อกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า หลวงพ่ออยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด อาการตอนนี้ปลอดภัยเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ สามารถออกบิณฑบาต รับบริจาคได้ตามปกติ
"วัดพระบาทน้ำพุ และมูลนิธิธรรมรักษ์ ขอเรียนต่อประชาชน และสื่อมวลชนว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการของวัดพระบาทน้ำพุจริง แต่เนื่องจากมีจิตศรัทธาของประชาชน ได้ร่วมกันบริจาคเข้ามาช่วยเหลือทางวัดและสงเคราะห์ผู้ป่วย ประชาชนจึงยังคงแชร์ข้อความนั้นต่อๆ กันเรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน ซึ่งทางวัดเห็นว่าเป็นกุศลต่อผู้มีจิตกุศล ผู้บริจาค และเป็นการอนุเคราะห์ต่อผู้ป่วย ผู้ยากไร้ ประกอบกับบัญชีเงินฝากดังกล่าว เป็นของวัดจริงทุกประการ"