ญาตินำศพ "เพชรมงคล" นักมวยวัย 13 ปีบำเพ็ญกุศล เผยไม่มีพ่อแม่ อยู่กับลุง สอนวิชาหมัดมวย ขึ้นเวทีชกหาเงินเองตั้งแต่ 8 ขวบ ถามหามาตรฐานกรรมการ หัวน็อกผืนผ้าใบ เพราะเอามือรองรับไม่ทัน
เวลา 15.00 น. วันที่ 13 พ.ย.2561 ที่ศาลาการเปรียญข้างเมรุ วัดใหม่บางปลากด ม.5 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ นายดำรงค์ ทาสะโก อายุ 48 ปี ที่อยู่ 1 ม. 6 ต.กุดจิก อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ พร้อมญาติ ได้ไปรับศพ ด.ช.อนุชา หรือน้องเล็ก ทาสะโก อายุ 13 ปี หลานชาย หรือชื่อในการชกมวย เพชรมงคล ส.วิไลทอง ที่เสียชีวิตในการแข่งขันชกมวยการกุศลโครงการต้านภัยยาเสพติดครั้งที่ 1 ชิงถ้วยรางวัลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2561 ที่เวทีมวยชั่วคราวโรงเรียนวัดคลองมอญ ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เสียชีวิตที่ รพ.สมุทรปราการ และส่งศพไปตรวจที่ รพ.ตำรวจ ด้วยสาเหตุเลือดออกในก้านสมอง มาบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 คืน และเผาในวันที่ 17 พ.ย.2561 เวลา 17.00 น.
สำหรับการแข่งขันชกมวยการกุศลในครั้งนี้ เป็นการแข่งขันชกมวยการกุศลโครงการต้านภัยยาเสพติดครั้งที่ 1 ชิงถ้วยรางวัลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา เพชรมงคล ส.วิไลทอง หรือ เด็กชายอนุชา หรือน้องเล็ก ทาสะโก อายุ 13 ปี ขึ้นชกกับทางด้าน ฟ้าใหม่ (พุฒ ลูกร่มเกล้า) ว.สุดประเสริฐ โดยน้องเล็กชกมาถึงยกที่ 3 ก่อนจะถูกฝ่ายตรงข้ามชกน็อกล้มทั้งยืนกลางเวที โดยที่กรรมการตัดสินบนเวทีไม่ได้เข้ามาช้อนคอรับศีรษะแต่อย่างใด ทำให้น้องเล็กศีรษะกระแทกพื้นจนหมดสติคาเวที ก่อนจะถูกหามส่งโรงพยาบาลบางจากพระประแดง และพบว่าศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนรุนแรง จึงถูกส่งต่อการรักษาไปที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
...
ด.ช.อนุชา หรือน้องเล็ก ทาสะโก อายุ 13 ปี หรือชื่อในการชกมวย เพชรมงคล ส. วิไลทอง เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนมัธยมวัดใหม่สมุทรกิจวิทยาคม ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้ฝึกหัดมวยจนเป็นนักมวย ชกมาตั้งแต่อายุ 8 ปี ใช้นามชกว่า เพชรมงคล ส.วิไลทอง ฝึกซ้อมอยู่ที่สนามกีฬาสวนธารณะเทศบาลเมืองลัดหลวง ประวัติการชกมากกว่า 170 ครั้ง แล้วมาไฟต์ล่าสุดชกที่งานต้านภัยยาเสพติดครั้งที่ 1 ที่เวทีชั่วคราวโรงเรียนวัดคลองมอญ น้องเล็กได้คัดเลือกเป็นคู่รองคู่เอก ในพิกัด 41 ปอนด์ ซึ่งผู้ตายเป็นเด็กกตัญญู ไม่มีพ่อและแม่ พักอาศัยอยู่กับลุง โดยที่ผ่านมาจะตระเวนขึ้นชกมวยด้วยค่าตัวไม่กี่พันบาท เพื่อนำเงินมาเลี้ยงครอบครัวและส่งตัวเองเรียนหนังสือ มีฝีไม้ลายมือจัดว่าไม่ธรรมดา จนกระทั่งขึ้นชกครั้งล่าสุดก่อนจะจบชีวิตลง
ด้านนายดำรงค์ ทาสะโก ลุง ด.ช.อนุชา หรือน้องเล็ก ทานสะโก และเป็นผู้ฝึกสอน กล่าวว่า ตนเองไม่ติดใจสาเหตุที่น้องเสียชีวิต มันเป็นอุบัติเหตุ โดยยังฝากกับผู้จัดงานว่า ให้มีมาตรฐานของกรรมการผู้ตัดสิน และมีมาตรฐานของความปลอดภัยหรือเซฟตี้
“อยากให้มีกฎหมายเชฟตี้นักมวยเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จะต้องมีใส่เครื่องป้องกัน” ลุง ผู้ตาย กล่าว.