นักวิชาการ เตือนอาบน้ำด้วยเครื่องทำน้ำอุ่นแก๊ส อย่าอาบนาน เสี่ยงสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จนเป็นลมหมดสติ ชี้อันตรายมากถึงขั้นเสียชีวิต...
จากกรณีเครื่องทำน้ำอุ่นปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จนเป็นเหตุให้เด็กชายวัย 14 ปีหมดสติเสียชีวิตคาห้องน้ำในบ้านพัก บนดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ดร.กมล เอื้อชินกุล หัวหน้างานรับรองคุณภาพบริภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ (ECEC) เนคเทค กล่าวกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ว่า เครื่องทำน้ำอุ่น มีทั้งหมด 2 ประเภท 1.เครื่องทำน้ำอุ่นชนิดใช้ไฟฟ้า และ 2.เครื่องทำน้ำอุ่นชนิดแก๊ส
“สถานที่บางแห่งไม่เหมาะกับการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นชนิดไฟฟ้า เนื่องจากสถานที่นั้นๆ ไฟฟ้าไม่สามารถเข้าถึงได้ หรือพื้นที่นั้นๆ มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ไฟฟ้าอย่างจำกัด” ดร.กมล กล่าว
ดร.กมล กล่าวต่ออีกว่า สำหรับเครื่องทำนำอุ่นไฟฟ้า จะมีการเตือนว่า ต้องติดตั้งสายดิน เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่วและช็อต แต่สำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นชนิดแก๊สนั้น จะมีการเตือนว่า ไม่ควรอาบน้ำนาน เพราะจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถูกปล่อยออกมา และควรจะอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำที่สามารถระบายอากาศได้ดี
...
“ส่วนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น จะออกมาจากถังแก๊สที่อยู่นอกห้องน้ำ จากนั้นก็ผ่านเข้ามาที่สายท่อแก๊ส และเข้าไปในเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งจะมีหม้อต้มเล็กๆ ต้มให้น้ำอุ่น และก็ปล่อยน้ำอุ่นออกมาตามสายฝักบัว” ดร.กมล กล่าว
ดร.กมล กล่าวต่ออีกว่า ส่วนระยะเวลาของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จะทำให้ผู้ใช้งานหมดสติได้นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น ขนาดของห้อง, ความสูงของเพดาน เป็นต้น ซึ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น จะลอยขึ้นไปบนเพดานก่อน เพราะฉะนั้น ถ้าเพดานเตี้ย ห้องน้ำแคบ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะเข้าไปในโพรงจมูกของเราเร็วมากขึ้น แต่ถ้าเพดานสูง ห้องน้ำกว้างโปร่ง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะสามารถระบายออกไปได้
“หากสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปมากๆ ก็จะทำให้เป็นลมหมดสติได้ แต่ถ้าสูดดมต่อเนื่องนานๆ ประมาณครึ่งชั่วโมงขึ้นไปก็จะทำให้เสียชีวิต เพราะบุคคลท่านนั้นๆ มีปริมาณก๊าซสะสมอยู่ในเลือดเป็นจำนวนมาก และอีกหนึ่งอันตรายของการสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้น มาจากการล้มหมดสติหัวฟาดพื้นด้วย” ดร.กมล กล่าว