"บรรยิน" โดดป้องสองพริตตี้ "ป้อนข้าว-น้ำตาล" หลังถูกกองปราบ-ปปง.ค้นบ้านอายัดทรัพย์ จี้ถาม จนท.ตรวจค้นมีใบสั่งจากใคร หรือเป็นการเชื่อมโยงการเมืองหรือไม่ ยันเดินหน้าฟ้องสื่อเสนอข่าวกล่าวหาเชื่อมโยงยาเสพติด ด้านกองปราบชี้แจงการทำงาน ยืนยันทำตามกรอบของกฎหมาย   

จากกรณีเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เข้าตรวจค้นบ้านของ น.ส.อุรชา หรือ ป้อนข้าว วชิรกุลฑล อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.562/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 และเข้าตรวจค้นบ้านของ น.ส.กัญฑณา หรือ น้ำตาล ศิวาธนพล อายุ 26 ปี พริตตี้ แคดดี้สาว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.563/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือรับของโจร กรณีรับโอนหุ้นของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทางคดีและรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ยี่ห้อยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญณ 8222 กทม. รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ เพื่อไปทำการตรวจสอบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (ปปง.อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีบรรยิน มูลค่า 39 ล้าน)

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 59 พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตส.ส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ แสดงความเห็นว่าจากการเข้าค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเมื่อวานนี้นั้น เป็นเรื่องที่ตนตั้งข้อสังเกตและตั้งคำถามว่า การเข้าค้นวานนี้ รวมทั้งการยึดอายัดทรัพย์สินหลายรายการไปตรวจสอบ เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ มีใบสั่งจากใคร หรือเป็นการเชื่อมโยงกับการเมืองหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา กองปราบปรามได้เข้าตรวจสอบไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่สามารถยึดบ้านและที่ดิน และทรัพย์สินอื่นๆ ได้ จึงประสานกับ ปปง. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจให้การยึดทรัพย์สินร่วมเข้าค้นด้วย

...

อย่างไรก็ตาม จากการที่ตนตั้งคำถามนั้นอยากให้ ปปง. ตรวจสอบเอกสารที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบนำไปให้ว่ามีมูลฐานความผิดตรงตามเงื่อนไขของ ปปง.หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่มีการนำเสนอข่าวของสื่อบางสำนักที่นำเสนอเชิงว่า ตนมีความเชื่อมโยงกับยาเสพติด ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ก็ตามนั้น ทำให้ตนได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก ซึ่งตนยังคงจะฟ้องร้องสื่อ และรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว เพียงรอคำตัดสินของอัยการอย่างชัดเจนในเรื่องคดีความของตนเสียก่อนจึงจะดำเนินการต่อไป 

พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รรท.ผบก.ป. กล่าวว่า การตรวจค้นอายัดบ้านและทรัพย์สินมีค่าต่างๆ ของ น.ส.อุรชา วชิรกุณฑล และ น.ส.กัญฑณา ศิวาธนพล วานนี้นั้น สืบเนื่องจากชุดสืบสวนสอบสวนพบการกระทำความผิด โดยได้ประมวลเรื่องไปยัง ปปง.เพื่อดำเนินการ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการปฏิบัติงานเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าสำหรับการตรวจค้นอายัดบ้านและทรัพย์สินมีค่าต่างๆ ของน.ส.อุรชา วชิรกุณฑล และ น.ส.กัญฑณา ศิวาธนพล สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช และชุดคลี่คลายคดี ได้สืบสวนสอบสวนจนพบว่าการกระทำของ พ.ต.ท.บรรยิน และพวก เป็นการกระทำความผิดเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์ รวมทั้งมีมูลฐานในเรื่องความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน

พล.ต.ต.ชาญ กล่าวต่อว่า หากปล่อยเนิ่นนานไป ผู้ต้องหาอาจจะนำทรัพย์สินและหุ้นต่างๆ ไปแปรสภาพเป็นอย่างอื่น ยากต่อการติดตาม จึงได้รายงานให้ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ทราบ ก่อนจะประมวลเรื่องประสานไปยัง ปปง.ให้เข้ามาร่วมสืบสวน ตรวจสอบเส้นทางการเงิน จากการประชุมระหว่างชุดทำงานของกองบังคับการปราบปรามและเจ้าหน้าที่ ปปง. ร่วมกัน โดย ปปง.มีมติว่า การกระทำของ พ.ต.ท.บรรยิน เข้าข่ายความผิดมูลฐานการฟอกเงิน ตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ข้อ 16 เป็นความผิดเกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อชีวิตหรือร่างกาย จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา เพื่อให้ได้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สิน จึงได้ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ อาทิ บ้าน รถยนต์ ของ น.ส.อุรชา น.ส.ศรีธรา พรหมา และ น.ส.กัญฑณา ทั้งหมด รวมทั้งหุ้น ทรัพย์สินอื่นๆ ที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด

ทั้งนี้มีกระแสข่าวว่า น.ส.อรุชา ได้เดินทางไปที่ สน.ประเวศ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชุดสืบสวนกองปราบปราม ในฐานความผิด 157 และข้อหาลักทรัพย์ จากกรณีที่ชุดสืบสวนกองปราบปรามได้นำกำลังไปตรวจค้นที่บ้านพักของ น.ส.อุรชา ภายในหมู่บ้านบางกองบลูเลอวาร์ด พระราม 9–ศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่าในวันดังกล่าวนั้น ทางชุดสืบสวนกองปราบปรามได้นำหมายค้นเพื่อไปทำการตรวจค้นที่บ้านของ น.ส.อุรชา จริง แต่ น.ส.อุรชา ไม่อยู่ที่บ้านจึงให้นิติบุคคลเป็นผู้รับทราบหมายค้นตามที่ชุดสืบสวนนำไปแสดง และเป็นผู้นำตรวจค้น โดยระหว่างการตรวจค้นทางตำรวจกองปราบปรามได้บันทึกตรวจยึดของกลางอย่างถูกต้อง และดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งต่อมาทราบว่าทาง น.ส.อุรชา ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจชุดตรวจค้น ซึ่งพนักงานสอบปราบปรามได้นำบันทึกการตรวจยึดที่ได้จากการตรวจค้น รวมทั้งเอกสารอื่นๆ ไปทำการชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม การที่ น.ส.อุรชา แจ้งความกับทางตำรวจชุดตรวจค้นนั้น เป็นสิทธิของ น.ส.อุรชา ที่สามารถกระทำได้ แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าตำรวจกองปราบปรามได้ปฏิบัติงานตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างถูกต้อง