นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังลงพื้นที่แก้ปัญหาขอทานเด็กต่างด้าวพื้นที่อโศก-สุขุมวิท ร่วมกับกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่า เรื่องขอทานถือเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะขอทานเด็กต่างด้าว เพราะมีผลกระทบในหลายมิติ ทั้งคุณภาพเด็กที่ต้องถูกทารุณกรรมข้ามประเทศ อีกทั้งไม่มีการศึกษา ไร้สวัสดิภาพที่สำคัญมีผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นตัวชี้ว่าประเทศไทยอดทนได้ให้พวกขอทานเข้ามาหากินมากขึ้น ทั้งนี้ กทม.ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ลุยปราบปรามขอทานอย่างเต็มที่ ซึ่งจากการสอบถามพบว่า ขอทานต่างด้าวส่วนใหญ่มาจากช่องทางธรรมชาติ มีนายหน้าพาเข้ามาหัวละ 4,000 บาท บางรายใช้วิธีการเป็นขอทานแม่ลูก มีรายได้ดีวันละเกือบ 1,000 บาท พักอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มแล้วออกมากระจายตัวขอทานในพื้นที่ต่างๆ
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ตั้งแต่ต้นปี 2568 พบขอทานต่างด้าวมาหากิน 80 ราย ซึ่งมีความพยายามที่จะกวดขันทั้งการจับกุมและส่งกลับประเทศต้นทาง นอกจากนี้ยังมีการส่งขอทานเด็กตรวจดีเอ็นเอเพื่อสืบหาความสัมพันธ์ของขอทาน และหาผู้ปกครอง ซึ่งแม่บางคนมีลูกหลายคน และใช้ลูกมาเป็นเครื่องมือทำมาหากิน จึงขอฝากประชาชนว่าอย่าให้เงินขอทาน เพราะการให้เงินเป็นการสร้างปัญหาเพิ่ม กลายเป็นดึงดูดให้คนมาทำอาชีพขอทานอยู่เรื่อยๆ
“วันนี้เราต้องประกาศให้โลกรู้แล้วว่าประเทศ ไทยไม่ได้เป็นประเทศที่รับคนยากลำบากเข้ามาทำงานขอทาน เพราะผิดกฎหมาย จึงขอฝากให้ทุกหน่วยทำงานกันอย่างเอาจริงเอาจัง หากประชาชนรู้แหล่งของขอทานต่างด้าวให้แจ้งไปที่สำนักงานเขตทุกเขต และ Traffy Fondue ซึ่งขณะนี้พบแหล่งใหญ่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่สำโรง จ.สมุทร ปราการ เขตวัฒนา บางกะปิ รามคำแหง หรือตามเส้นรถไฟฟ้า และขอแจ้งเตือนว่าหากผู้ให้ที่พักอาศัยกับขอทานต่างด้าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว.
...
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม