เมื่อวันที่ 30 ก.ค.67 ที่ศาลาว่าการ กทม. นายณัฐพงศ์ ดิษยบุตร รองปลัด กทม. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริต กทม. (ศตท.กทม.) แถลงผลสืบสวนข้อเท็จจริงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของศูนย์กีฬา กทม. หลังครบเวลาสอบสวน 30 วัน ว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา กทม.ได้รับการร้องเรียนผ่านสื่อว่าการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของศูนย์กีฬา กทม.แพงเกินจริง ศตท.กทม รับเรื่องร้องเรียน ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ คณะกรรมการดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริง จำนวน 7 โครงการ ช่วงปีงบประมาณปัจจุบัน ได้แก่

1.โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 21 รายการ สำหรับศูนย์กีฬาอ่อนนุช 15.69 ล้านบาท

2.โครงการฯสำหรับศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 12.11 ล้านบาท 3.โครงการฯสำหรับศูนย์กีฬามิตรไมตรี 11.01 ล้านบาท

4.โครงการประกวดราคาซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 11 รายการ ของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ วงเงินงบประมาณ 4.99 ล้านบาท

5.โครงการฯสำหรับศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ 4.99 ล้านบาท

6.โครงการฯ สำหรับศูนย์นันทนาการ สังกัดส่วนนันทนาการ 17.9 ล้านบาท

และ 7.โครงการฯสำหรับศูนย์นันทนาการวัดดอกไม้ 11.52 ล้านบาท

จากการสอบสวนพบว่าข้อเท็จจริงมีมูล ราคาแพงเกินจริง สูงกว่าราคาท้องตลาดและราคาสูงกว่าการจัดซื้อในปีก่อนๆ หากเปรียบเทียบราคาต้นทุนกับค่าดำเนินการแล้ว ยังสูงกว่าราคาต้นทุนและค่าดำเนินการเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้มีรายละเอียดสินค้าเกินความจำเป็น ปรับสเปกให้สูงขึ้นจากเดิมกว่าที่เคยจัดซื้อ เช่น เพิ่มกำลังแรงม้า เพิ่มโปรแกรมออกกำลังกาย เพื่อรองรับน้ำหนักและปรับจอแสดงผลระบบสัมผัส เป็นต้น ขณะเดียวกัน มีการกำหนดรายละเอียดบริษัทผู้ร่วมประมูลเกินความจำเป็น มีข้อกำหนดที่ไม่เปิดกว้างให้เสนอราคาอย่างเท่าเทียม เกินกว่าแนวทางที่กระทรวงการคลังกำหนด

...

นายณัฐพงศ์กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่า มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย และเกี่ยวข้องกับการพิจารณางบประมาณ รวมทั้งการดำเนินการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายทั้งหมด 25 ราย และมี 1 ราย ลาออกจากราชการไปแล้ว ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการรายงานผลไปยังปลัด กทม. และปลัด กทม. มีคำสั่งย้ายผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการจัดซื้อทั้ง 7 โครงการไปปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักงานปลัด กทม. พร้อมทั้งเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยอย่างร้ายแรง ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน และจะพิจารณาลงโทษต่อไป รวมถึงการตั้งคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้มีการชดเชยทางแพ่ง โดยใช้ระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่