เหยื่อเต็นท์รถมือสองย่านศรีนครินทร์ บุกร้อง “ทนายเดชา” ช่วยเร่งรัดคดีซื้อรถมือสองแล้วไม่ได้เล่มทะเบียน มีผู้ตกเป็นเหยื่อแล้วเกือบครึ่งร้อย ความเสียหาย 15-20 ล้านบาท ทนายคนดังเปรยให้รีบเอาเงินมาคืนเหยื่อก่อนถูกออกหมายจับ ด้าน ผกก.สน.ประเวศ แจงเหยื่อเจ้าของเต็นท์รถจ่ายเงินคืนเหยื่อชุดแรกแล้วประมาณ 20 ราย ส่วนที่รวมตัวกันมาร้องเรียนเป็นชุดที่ 2 อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานวันที่ 1 ก.ค. เตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับ
เหยื่อเต็นท์รถมือสองขายรถแล้วไม่ให้ทะเบียน สงสัยเป็นรถหนีไฟแนนซ์ ทำให้เหยื่อไม่ได้เล่มทะเบียนรถมาครอบครอง บุกร้องทนายชื่อดังครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 มิ.ย. น.ส.สุทธญาณ์ สิริโสภน อายุ 29 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ พร้อมกลุ่มผู้เสียหายเกือบ 20 คน ถูกเต็นท์รถมือสองนำรถหนีไฟแนนซ์มาขาย ทำให้โอนรถไม่ได้เพราะเล่มทะเบียนอยู่กับไฟแนนซ์ เข้าขอความช่วยเหลือนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ ซอยรามอินทรา 52/1
น.ส.สุทธญาณ์ สิริโสภน ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายกล่าวว่า ตนทำธุรกิจขายรถมือสองที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนเกิดเหตุเห็นโพสต์เฟซบุ๊กชื่อ “สมลักษณ์ เกิดพุด” ในมาร์เกตเพลสขายรถมือสองราคาถูกกว่ารถมือสองเต็นท์อื่นประมาณ 2-4 หมื่นบาท เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ตนทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ หมายเลขทะเบียน กพ 4534 ร้อยเอ็ด ราคาคันละ 220,000 บาท และรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ หมายเลขทะเบียน งร 2627 เชียงใหม่ ราคาคันละ 200,000 บาท กับศูนย์จำหน่ายรถมือสองเอเอยูสคาร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. มีนายสิริชัย ซื่อต่อวงศ์ เป็นเจ้าของ ส่วนนางสมลักษณ์ เกิดพุด เจ้าของโพสต์เป็นแม่นายสิริชัย แต่เจ้าของเต็นท์อ้างว่า เป็นรถประมูลมาจากไฟแนนซ์ มีเงื่อนไขเรื่องระยะเวลาส่งมอบเล่มทะเบียนประมาณ 15-30 วัน ถ้าเกินกำหนด 30 วัน จะได้ค่าเสียเวลา 10,000 บาท
...
“หลังจากตัดสินใจซื้อรถมาโดยยังไม่ได้เล่มทะเบียน เริ่มติดต่อผู้ขายลำบาก ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมาถึงปัจจุบันยังไม่ได้เล่มทะเบียนรถ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ตัดสินใจเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.กิตติโชติ สุ่มมาตย์ รอง สว. (สอบสวน) สน.ประเวศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. เต็นท์ดังกล่าวดูน่าเชื่อถือ มีใบประกอบการตั้งโชว์ มีรถโชว์เต็มร้าน หน้าร้านมีเซลส์ ขายรถ แต่หลังเกิดเหตุติดต่อเซลส์ไม่ได้ สุดท้ายขนของย้ายเต็นท์ห่างออกไปจากที่แรกไม่มาก แต่ยังโพสต์เฟซบุ๊กขายรถมือสองตามเดิมไม่สะทกสะท้าน ผู้เสียหายมีทั้งเจ้าของธุรกิจขายรถมือสองซื้อแล้วไปขายต่อ รวมทั้งผู้เสียหายที่ตั้งใจซื้อรถไปใช้ส่วนตัว ผู้เสียหายสูญเงินมากสุดเป็นเจ้าของเต็นท์รถมือสอง 2 ราย ซื้อรถไปรายละ 7 คัน” น.ส.สุทธญาณ์กล่าว
ส่วน น.ส.เครือวัลย์ พูลสิงห์ อายุ 32 ปี ชาว จ.ปทุมธานี เหยื่ออีกรายเผยว่า ตนประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ซื้อรถไปใช้ส่วนตัว ถูกตุ๋นในลักษณะเดียวกันเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ซื้อรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ หมายเลขทะเบียน 4 กจ 5051 กรุงเทพมหานคร ในราคา 260,000 บาท เสียเงินซ่อมไปอีก 6-7 หมื่นบาท ในสัญญานัดส่งมอบเล่มทะเบียนรถภายใน 45 วัน เมื่อถึงกำหนดตนขอรับเล่มแต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับมอบเล่มทะเบียนรถทำให้ได้รับความเสียหาย หลังเข้าแจ้งความเข้าพบ พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ ชี้แจงคดีที่เกิดขึ้นว่า ส่วนหนึ่งกลุ่มผู้เสียหายชุดแรกกว่า 20 รายได้รับเงินคืนแล้ว ตนเป็นกลุ่มผู้เสียหายชุด 2 ประมาณ 47 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 15-20 ล้านบาท สอบปากคำไว้หมดแล้ว กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน วันที่ 1 ก.ค.นี้ จะเสนอศาลอาญาพระโขนงออกหมายจับข้อหาฉ้อโกง
ด้านทนายเดชากล่าวว่า ฝากไปยังเจ้าของเต็นท์รถดังกล่าวให้เอาเงินมาคืนผู้เสียหาย เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหากว่า 50 คนที่แจ้งความแล้ว ถือว่าเป็นคดีใหญ่ เจ้าของเต็นท์รถน่าจะรอดยาก คาดว่าเร็วๆนี้ สน.ประเวศจะออกหมายจับ คดีดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง สำหรับการดำเนินการต่อจากนี้คือ ทีมทนายจะเร่งรัดตำรวจให้ติดตามตัวเจ้าของเต็นท์รถมาดำเนินคดี เพราะถือว่าเป็นภัยสังคมร้ายแรง
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่