นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้อำนวยการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) เปิดเผยถึงผลดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า หลังจากชำระค่างานระบบเดินรถ (E&M) ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ มูลค่า 23,312 ล้านบาท ให้กับ BTSC และโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินให้ กทม.แล้ว เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ในส่วนค่าจ้างเดินรถ (O&M) ส่วนต่อขยายที่ 1 อ่อนนุช-แบริ่ง และสะพานตากสิน-บางหว้า และส่วนต่อขยายที่ 2 หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ BTSC ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง รวมมูลค่า 22,823 ล้านบาทนั้น ทางเคที ได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณา
นายธรัฐพรกล่าวว่า ปัจจุบันปริมาณผู้โดยสารและรายได้จากรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ โดยเส้นทางหลัก เฉลี่ยประมาณ 588,955 เที่ยว/คนต่อวัน ส่วนต่อขยายที่ 1 เฉลี่ย 297,450 เที่ยว/คนต่อวัน ส่วนต่อขยายที่ 2 เฉลี่ย 277,306 เที่ยว/คนต่อวัน ในระยะสั้นบริษัทจะเร่งหารายได้เชิงพาณิชย์เพิ่มจากการให้สิทธิเช่าพื้นที่ร้านค้าและสื่อโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 รวมถึงคานทางวิ่งเสาตอม่อรถไฟฟ้า ทั้งในเส้นทางหลักสัมปทาน เฉพาะช่วงที่พ้นจากสถานี และของส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ที่จะพัฒนาเชิงพาณิชย์ สำหรับพื้นที่ของส่วนต่อขยายที่ 1 ก่อนหน้านี้ได้เปิดให้เอกชนเช่าพื้นที่แล้วแต่ยังไม่เต็ม ส่วนพื้นที่ของส่วนต่อขยายที่ 2 มีมากกว่าและยังไม่ได้เปิดให้เช่า นอกจากนี้บริษัทได้มีการสอบถามความคิดเห็นจากภาคเอกชน คาดว่าจะประกาศเปิดประกวดราคาได้ภายในปี 67 สำหรับรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ บริษัทจะต้องส่งให้ กทม.ทั้งหมด.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
...