เมื่อวันที่ 29 พ.ค.67 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพ มหานคร ว่าได้ทบทวนเรื่องหาบเร่แผงลอยที่จะมีการประกาศหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกำหนดและการขายหรือจำหน่ายสินค้าบนถนนหรือสถานสาธารณะใหม่ โดยเรื่องหลักๆ คือการทบทวนหลักเกณฑ์รายได้ของผู้ค้า โดยอยากให้หาบเร่แผงลอยทั้งหมดที่อยู่ในจุดผ่อนผันต้องยื่นจ่ายภาษีตามกฎหมาย แม้รายได้น้อยจนไม่ต้องจ่าย แต่ขอให้เข้าหลักเกณฑ์การยื่นภาษีเพื่อให้ทราบว่ารายได้เป็นอย่างไร
โดยใช้เกณฑ์ว่าผู้ค้าที่อยู่ในจุดผ่อนผันหลังจาก 1 ปี ต้องมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน หากเกินกว่านี้คิดว่าผู้ค้าน่าจะพอขยับขยายไปหาที่เช่าอื่นได้ และหลังจากประชาพิจารณ์และปรับปรุงตามความเห็นต่างๆ ในเรื่องอื่นเพิ่มเติมแล้วนั้น จึงจะลงนามและรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
ทั้งนี้ จะทบทวนจุดผ่อนผันทั้งหมดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ใหม่ โดยระหว่างนี้จะสั่งการให้จุดผ่อนผันในปัจจุบันปรับปรุงพฤติกรรมตนเอง หากจุดใดไม่สะอาดและไม่ปรับปรุงจะดำเนินการยกเลิกจุดผ่อนผันนั้นทันที เพราะเราต้องการให้เมืองมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยจุดไหนที่สะอาด ไม่เบียดเบียนคนเดินเท้าจะคงไว้ให้เป็นจุดผ่อนผันต่อไป
สำหรับมาตรการระยะยาวในการแก้ปัญหาหาบเร่แผงลอย คือ ต้องหาพื้นที่อื่นที่ไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ หรือขอความร่วมมือกับเอกชนในการร่วมกันจัดพื้นที่ค้าขายที่ราคาเช่าไม่แพง เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยมีโอกาสเข้าถึงพื้นที่ทำมาหากินได้ และผู้ซื้อสามารถเข้าถึงอาหารที่ราคาไม่แพง.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
...