"บิ๊กโจ๊ก" นำพี่น้องสมาคมชาวปักษ์ใต้ จัดงานรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ ลั่นหากมีโอกาสจะกลับไปทำหน้าที่ดูแลประชาชน สางหนี้นอกระบบพื้นที่ภาคอีสาน

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 28 เม.ย. 67 ที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนกาญจนาภิเษก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ เป็นประธานในงานสืบสานประเพณีสงกรานต์ รดน้ำขอพรผู้สูงอายุประจำปี 2567 โดยมีพี่น้องชาวใต้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,200 คน พร้อมประกาศหนุนให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขับเคลื่อนงานด้านสาธารณกุศลในฐานะนายกสมาคมฯ ต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ ต้องยกย่องเทิดทูนเกียรติของคนรุ่นเก่าที่ทำความดี ถือเป็นประเพณีสำคัญของคนใต้ โดยผู้ใหญ่ที่มาบางท่านอายุเกือบ 100 ปี หรืออายุ 80 กว่าๆ ทั้งนั้น หากสังเกตผู้ใหญ่ที่มามีหน้าตายิ้มแย้มสดใส เนื่องจากบุตรหลานให้ความเคารพรักและเทิดเกียรติ จึงร่วมกันจัดให้มีสีสันตามประเพณีทุกปี ประกอบกับช่วงสงกรานต์ตนและคณะกรรมการหลายคนก็ไม่ได้เดินทางกลับบ้าน ซึ่งมายืนส่งคนใต้ขึ้นรถบัสกลับบ้านในที่แห่งนี้

"ตนและกรรมการสมาคมจึงถือเอาวันนี้รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ของคนใต้บ้านเรา ซึ่งมีทั้งญาติพี่น้อง ญาติทางแม่ตน และถือเป็นประเพณีสืบสวนที่คนใต้ถือปฏิบัติมาอย่างยาวนาน ไม่ลืมถิ่นฐานบ้านเกิด และไม่เคยลืมบรรพบุรุษ พร้อมยกย่องเทิดทูนเกียรติคนใต้ ไม่เกี่ยวกับยศตำแหน่ง เพราะเกษียณแล้ว ซึ่งคนเหล่านี้ร่วมกันก่อตั้งสมาคม ทำความดีให้กับคนใต้" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

...

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ทราบมาว่ามีพี่น้องชาวใต้อีกจำนวนมาก ที่จะเข้ามาให้กำลังใจตน แต่ขอฝากถึงพี่น้องว่าวันนี้ท่านยังไม่ต้องมา วันนี้แค่ส่งเสียงโทรศัพท์มา โพสต์เฟซบุ๊ก ช่องทางออนไลน์ต่างๆ กำลังใจก็มากันล้นหลาม ทั้งนี้ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าตนไม่ได้เสียกำลังใจ ตนยังทำหน้าที่เพื่อประชาชนทั้งแผ่นดินอยู่ แต่สิ่งที่ตนเสียดายในห้วงที่ไม่ได้ทำหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้ ยังมีงานอีกเยอะเเยะไปหมดที่พี่น้องประชาชนรอคอย เช่น หนี้นอกระบบ ยาเสพติด หรือค้ามนุษย์ และยังมีเรื่องอื่นอีกเยอะแยะ ซึ่งเป็นงานที่ตนเคยรับผิดชอบอยู่ และทำให้กับพี่น้องประชาชนทั้งแผ่นดิน

"พร้อมฝากเรียนถึงประชาชนภาคอีสาน ซึ่งมีหลายท่านที่ติดต่อมาว่าเรื่องหนี้นอกระบบไม่มีการขับเคลื่อน อยากฝากให้ทุกท่านรอตนอีกหน่อย เมื่อตนมีโอกาสทำจะขอกลับไปทำแบบเดิม ที่คืนโฉนดที่ดินให้กับพี่น้องชาวอีสาน โดยภูมิภาคประเทศไทยมีความแตกต่างกัน ในภาคใต้ปัญหาหนี้นอกระบบมีน้อย เพราะคนใต้ส่วนใหญ่มีทรัพยากรทั้งสวนปาล์มและสวนยาง จึงไม่กระทบกับปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบ แต่ของพี่น้องชาวอีสานนั้น มีปัญหาเรื่องกู้หนี้นอกระบบจำนวนมาก จากที่ตนเคยลงพื้นที่ เนื่องจากเวลาที่ชาวบ้านไปกู้กับทางรัฐ ต้องกรอกเอกสารเยอะ ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ ซึ่งทางตัวเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้มีการอธิบาย เช่น ให้เขียนแผนงานต่างๆ ชาวบ้านก็เขียนไม่เป็น" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในห้วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ตนได้ปราบปรามหนี้นอกระบบ และสามารถนำโฉนดที่ดินคืนให้กับพี่น้องประชาชนไปประมาณ 3 แสนกว่าไร่ ใช้เวลาภายใน 1 ปี แต่เราก็ต้องดูแลนายทุนด้วย หลักการของหนี้นอกระบบมีความฉ้อฉลจากการเอาที่ดินของชาวบ้านไปเป็นที่ดินของตน สิ่งนี้คือความเดือดร้อน หากดูสถิติพี่น้องภาคอีสานผูกคอตายเยอะ บางรายกู้เงิน 2 แสน วันดีคืนดีที่ดินก็ถูกศาลพิพากษายึด เพราะสู้นายทุนไม่ไหว ซึ่งขณะที่ตนมานั่งอยู่ที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ แม้ไม่ได้ทำหน้าที่ของตำรวจ ก็มีเรื่องร้องเรียนเต็มไปหมด แต่ที่เสียดายคือไม่ได้เอาเวลาไปขับเคลื่อนดูแลพี่น้องประชาชน ถึงอยากให้พี่น้องรอให้ตนมีสถานะกลับไปทำงานได้เมื่อไร ก็จะขอกลับไปทำให้ ต้องเข้าใจว่าโลกสมัยใหม่ไม่ได้อยากได้อำนาจ แต่อยากเข้าไปทำให้กับประชาชน

"ทั้งนี้ ขอฝากประชาสัมพันธ์พี่น้องชายใต้มาร่วมกิจกรรมเดือนสิบ เร็วๆ นี้ที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ ขอให้มากันเยอะๆ จะมีการจัดกิจกรรมการแสดง ทั้งหนังตะลุงและอื่นๆ ด้วย" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว