อดีต ผอ.ช่องเจเคเอ็น 18 และเจ้าของบริษัททัวร์นางงามมิสยูนิเวิร์ส ไทยเดสติเนชั่น ยื่นฟ้อง "แอน จักรพงษ์" โพสต์หมิ่นประมาทให้เสียชื่อเสียง คาดค่าเสียหายหลายล้านบาท ยันไม่ได้ติดต่อพูดคุยกัน ศาลรับฟ้องและนัดไต่สวนมูลฟ้อง มิ.ย.นี้

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ก.พ. 67 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ดร.องอาจ สิงห์ลำพอง หรือ โด่ง อดีตผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล ช่องเจเคเอ็น 18 และ น.ส.วไลลักษณ์ เนียนขาว กรรมการผู้บริหารบริษัท ไทยเดสติเนชั่น จำกัด (บริษัททัวร์) ได้แถลงข่าวยื่นฟ้อง คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ หรือ "แอน จักรพงษ์" ผู้บริหารบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือเจเคเอ็น เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งแยกฟ้องเป็น 2 สำนวน

โดย ดร.องอาจ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.-2 ก.พ. 2567 มีการโพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงทำนองว่า เราไม่มีความเป็นมืออาชีพ ไม่รับผิดชอบ ทำให้ตนได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง จากการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนต่อสาธารณะ ตนจึงต้องรักษาสิทธิ์ของตัวเอง รักษาชื่อเสียงของนามสกุลตัวเอง ในวันนี้จึงยื่นฟ้องคุณแอน จักรพงษ์ ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาล เพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเอง รวมไปถึงหน้าที่การงานความเป็นนักวิชาชีพในวงการสื่อสารมวลชน ที่เชื่อว่าเรามีความเป็นมืออาชีพในการทำงาน เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะทำธุรกิจไหนก็ตาม เรื่องการได้หรือว่าเสียผลประโยชน์เป็นเรื่องของสถานการณ์ สภาพแวดล้อมและบริบทต่างๆ และการเป็นอาจารย์ที่เคารพนับถือของเหล่าลูกศิษย์ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ผ่านมายังไม่มีการพูดคุยกับคู่กรณี โดยมีหลักฐานว่าหลักฐานที่ตนลาออกจาก ผอ.ช่องเจเคเอ็น 18 เราไม่ได้มีการติดต่อกัน

"คำพูดหมิ่นประมาท มันเหมือนคุณพูดแล้วฉีกกระดาษออกเป็นชิ้นเล็กๆ ทีละชิ้น พูดหนึ่งคำ คุณก็ฉีกกระดาษหนึ่งชิ้น พอพูดจบคุณก็โปรยมันในอากาศ สิ่งที่คุณพูด มันก็ปลิวฟุ้งกระจายไปทั่วเมือง คนที่ถูกคุณหมิ่นประมาท ก็ต้องมาวิ่งตามเก็บ แต่เชื่อเถอะว่า เก็บยังไงก็เก็บไม่หมด แล้ววันหนึ่งถ้าตัวคุณต้องมาเก็บกระดาษที่คุณโปรยไว้เอง เชื่อว่าคุณก็ไม่มีทางเก็บมันหมด ผมก็แค่อยากให้ระมัดระวังคำพูดที่จะพูดหรือแสดงอะไรออกไปสู่สาธารณะ" ดร.องอาจ กล่าว

...

ดร.องอาจ กล่าวต่อว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ตนได้รับความเสียหาย จะเรียกค่าเสียหายหลักล้านบาท (ประมาณ 20 ล้าน) ซึ่งศาลได้รับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.438/2567 นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 17 มิ.ย. นี้

ด้าน น.ส.วไลลักษณ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา คุณแอน จักรพงษ์ ได้ให้ข้อมูลต่อสาธารณะ โดยเผยแพร่ผ่านทางโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทำนองว่า ไม่มีใบดำเนินธุรกิจทัวร์ ทำให้ตัวดิฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะว่าเรามีหลักฐานใบอนุญาตถูกต้อง จดทะเบียนทำธุรกิจทัวร์มาแล้ว 14 ปี ขอเรียนว่าถ้าไม่มีใบอนุญาต ธุรกิจทัวร์จะไปรับงานของเจเคเอ็นได้อย่างไร จะไปดูแลพาร์ตเนอร์ของเขาได้อย่างไร ทำอาชีพเดียว ส่งผลให้ลูกค้าที่ทราบข้อมูลดังกล่าว คิดว่าบริษัทเราประสบปัญหาหรือเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หลังจากที่บริษัททัวร์เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีสำรองจ่ายเงินค่าตั๋วเครื่องบินนางงามจักรวาลและผู้บริหาร จำนวน 784,345 บาท เมื่อติดต่อทวงถาม ก็ถูกปฏิเสธจากผู้บริหาร รวมทั้ง คุณแอน จักรพงษ์ จึงยื่นฟ้อง 2 ข้อหา คือ หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

น.ส.วไลลักษณ์ กล่าวว่า การเข้าร่วมธุรกิจของบริษัทไทยเดสติเนชั่น กับผู้บริหารเจเคเอ็น เริ่มจาก ดร.องอาจ อดีต ผอ.สถานีโทรทัศน์ดิจิทัลช่อง เจเคเอ็น 18 ได้เรียกทางบริษัท ไทยเดสติเนชั่นให้มานำเสนอบริษัทกับ คุณแอน จักรพงษ์ ซึ่งเป็นผู้บริหาร โดยแจ้งว่ามี 3 บริษัทเข้ามาเสนอ และไทยเดสติเนชั่น ก็เป็น 1 ใน 3 บริษัท โดยมีการประชุมครั้งที่ 1 ในวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2566 ทางบริษัท ไทยเดสติเนชั่น ได้เข้าประชุมแนะนำบริษัทผ่านการประชุม Zoom และทำให้บริษัทไทยเดสติเนชั่น ได้ทำงานบริหารจัดการ Hello Universe Tour เพื่อพากลุ่มลูกทัวร์จำนวน 30 คน ไปชมการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ครั้งที่ 72 ที่ประเทศเอลซัลวาดอร์ ระหว่างวันที่ 11-19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 โดยมีสัดส่วนการแบ่งผลประโยชน์ เจเคเอ็น 60% และบริษัทไทยเดสติเนชั่น 40% หลังจากนั้นทางบริษัทไทยเดสติเนชั่น ก็ได้มาทำงานร่วมกับผู้บริหารทัวร์โดยตรงหลายท่าน

ส่วนข้อเท็จจริงที่บริษัทไทยเดสติเนชั่น ออกมาเรียกร้องความเสียหายเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายนั้น เนื่องจากการจัดทัวร์ดังกล่าว บริษัทไทยเดสติเนชั่น ได้สำรองออกเป็นค่าใช้จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับ กลุ่มนางงาม ประเทศอินเดีย บาห์เรน ออสเตรเลีย ไอซ์แลนด์ อเมริกาใต้ ผู้บริหาร Miss Universe Organization และค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมทั้งหมดเป็นจำนวน 784,346 บาท ซึ่งมีการส่งเช็คจำนวน 2 ฉบับมาให้ทางแอปพลิเคชันไลน์ ตามวันที่ออกเช็ค คือลงวันที่ 11 สิงหาคม 2566 และวันที่ 15 กันยายน 2566 โดยยังไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ Hello Universe Tour ที่ยังไม่ได้เรียกเก็บจากบริษัทเจเคเอ็น ซึ่งทั้ง 2 ฉบับ ยังไม่ได้รับการชำระแต่อย่างใด ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการติดต่อพูดคุยกัน แต่หลังจากนี้หากจะขอไกล่เกลี่ยก็คงจะยาก เพราะความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไม่สามารถยอมความได้ ซึ่งคดีนี้ศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.439/2567 นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 24 มิ.ย. นี้