นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการใหญ่สายธุรกิจ MOVE บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปิดเผยกรณีบริษัทชนะการประกวดราคาจ้างโครงการพัฒนาระบบการเดินรถด่วนพิเศษ (BRT) สายสาทร-ราชพฤกษ์ ว่า ตามขั้นตอนต้องรอการตรวจสอบเรื่องเอกสาร ก่อนลงนามสัญญาจ้าง สำหรับแผนดำเนินงาน บริษัทต้องเร่งจัดหารถโดยสารปรับอากาศขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) จำนวน 23 คัน เพื่อให้บริการเดือน ก.ค.2567
ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขที่กำหนดต้องเป็นรถโดยสารใหม่ และต้องผลิตจากภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งบริษัทจะดำเนินการจัดหารถเอง เพราะบริษัทมีประสบการณ์ อีกทั้งยังเป็นผู้ให้บริการรถบีอาร์ทีในปัจจุบันอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้หารือกับบริษัทผู้ผลิตรถแล้ว 2-3 ราย เพื่อตรวจสอบเรื่องราคา ความพร้อม และกำลังผลิตรถจะใช้เวลาเท่าไหร่ เพราะตามแผนงานบริษัท ตั้งเป้าจะนำรถโดยสารออกให้บริการพร้อมกันทั้ง 23 คัน จะไม่ทยอยวิ่งแต่อย่างใด เพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการผู้โดยสาร
นายสุรพงษ์กล่าวว่า สำหรับตัวรถโดยสาร ตามเงื่อนไขกำหนดเป็นรถชานต่ำ เปรียบเทียบรถที่ให้บริการปัจจุบันเป็นรถโดยสารชานสูง ระดับเดียวกับชานชาลา สถานี จุดนี้ กทม.จะต้องปรับปรุงสถานีใหม่ โดยทำทางลาดชานชาลาเพื่อให้ผู้โดยสารขึ้นลงรถได้สะดวกและปลอดภัย ส่วนเส้นทางเดิน กทม.แจ้งว่าจะมีการขยายไปถึงแยกท่าพระ จากเดิมแค่แยกรัชดาตัดราชพฤกษ์ นอกจากนี้จะปรับเส้นทาง สามารถออกไปรับส่งผู้โดยสารที่ป้ายรถประจำทางได้ด้วย โดย กทม. จะต้องขออนุญาตกรมการขนส่งทางบกในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเส้นทางเดินรถ บริษัท มีหน้าที่บริหารจัดการเดินรถ จัดเก็บค่าโดยสารส่งให้ กทม.เท่านั้น.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
...