ชุดความรู้ เรื่องเอไอ...แชมป์โลกหมากล้อม...เสียตำแหน่งให้เอไอ...เป็นข่าวเก่าหลายปีมาแล้ว
ผมถึงกับขนลุก เมื่อนึกขึ้นได้ ขนาดหมากฮอส เล่นง่าย ยังเล่นไม่เอาอ่าว หมากรุกเคยโขกกับเด็กวัด ตอนเป็นเณร...พอเซียนหมากรุกมาดูก็ถาม “ขุน” ไปไหน ก็บอก “กินไปแล้ว”
“ไม่รู้เลยหรือ? ขุนในหมากรุก” เขาไม่กินกัน...เรื่องเล่าที่เกริ่น ก็เพื่อจะบอก ผมเล่นหมากรุกไม่เป็น
แต่พอโตขึ้นมาก็รู้บ้างล่ะนะว่า คนระดับ “ขุน” นั้น ในทางการเมือง เขาก็ไม่กินกันเหมือนกัน ที่พม่า คุณอองซาน ซูจี เธอก็ยังมีชีวิตอยู่ แม้มีข่าวบ้านริมทะเลสาบ รัฐบาลทหารกำลังยึดขาย
บ้านเมืองใกล้ๆ ลงทุนลี้ภัย 17 ปี ตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาลชั้น 14 ก็ต้องทำใจ นี่ก็หมากระดับ “ขุน”
ระดับผู้นำ กี่บ้านกี่เมือง ตอนลี้ภัย เป็นธรรมเนียมก็ต้องช่วยดูๆกัน เหมือนกติกาหมากรุก จุดสุดท้ายอยู่ที่ขุนเดินต่อไม่ได้...ซึ่งหมายความว่า “แพ้”
กติกาหมากรุก ซับซ้อนน้อยกว่า “หมากล้อม” จึงไม่ต้องคิดมาก หากเอาเอไอมาเล่น แชมป์หมากรุกมนุษย์เสร็จเอไอแน่
มีคนมากมายกำลังรักตัวกลัวเอไอจะมาแย่งงาน ผมน่ะคนหนึ่ง
หลายเดือนเต็มที ผมดูทีวีรัฐสภา ดร.สัจภูมิ ละออ เสวนากับเพื่อนกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ดร.สัจภูมิ หลุดปาก เรื่องสั้นหลายเรื่อง...ที่ส่งประกวดชิงรางวัล อ่านแล้วจับได้ ใช้เอไอเขียน
เว้ย!เฮ้ย! นี่เอไอรุกเข้ามาแย่งงานนักเขียนเรื่องสั้น หรือต่อไป เรื่องยาวแล้ว...อีกหน่อย นักเขียนที่ฝากปากท้องกับคอลัมน์ประจำวัน “ก็คงเสร็จมัน”
แต่เมื่อ ดร.สัจภูมิ บอก เอไอเขียนเรื่องแบบเอไอ...ไม่ลุ่มลึกซับซ้อนอ่อนหวานมันเค็มเท่าคน ผมก็ยังพออุ่นใจ คงประคองมือ เขียนหนังสือหากินได้ต่อไป อย่างน้อยก็ปีสองปี
...
ผมเคยคิดอยู่เรื่อยๆ...เอไอ...ที่โปรแกรมให้เก่งได้ทุกเรื่อง...มีข้อต่างจากมนุษย์ตรงไหน
ผมร่ำเรียนธรรมะ ของพระพุทธเจ้า ชุดปฏิจจสมุบาท อยู่บ้าง พยายามทบทวน...ห่วงโซ่แห่งความทุกข์ ไปทีละข้อ เอ้า! เริ่มจากข้อ เพราะอวิชชา (โง่) มี สังขาร จึงมี
เพราะสังขารมี วิญญาณจึงมี เพราะวิญญาณมี นามรูป จึงมี
ข้อนามรูป นี่ล่ะ! สำคัญ ต้องพยายามทำความเข้าใจ พระพุทธเจ้าท่านถอดรูทหรือราก ของนามรูป สอนให้ชาวพุทธคุ้นหู ในชื่อ ขันธ์ห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
รูป ในความหมายที่คิดว่าเป็นรูป (อุปมาเหมือนฟูมฟองแม่น้ำ) เวทนา ในความหมายว่า สุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ (อุปมาเหมือนฟองน้ำฝน) สัญญา ภาษาโลกนึกถึงเงินกู้ ภาษาธรรม ความจำได้หมายรู้ (อุปมาเหมือนพยัพแดด)
สังขาร คิดว่าเป็นตัวเป็นตน (อุปมาเหมือนต้นกล้วย) วิญญาณ (ความรู้ตัว) อุปมาเหมือนมายากล
ย้อนไปที่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ...แล้วเพ่งความหมาย...ก็จะรู้ว่า ในขันธ์ 5 ที่มนุษย์มีนั้น เอไอสามารถมีได้ สี่ข้อ ไม่มีข้อเวทนา คือสุข ทุกข์ ไม่สุข ไม่ทุกข์ ข้อเดียว
สุดทางของสายโซ่แห่งความทุกข์ จบลงตรงอาการของความทุกข์สามอย่าง ความโศกเศร้าคร่ำครวญ ความทุกข์กายทุกข์ใจ และความคับแค้นใจ
ใช้ความรู้พระพุทธเจ้า ผมก็โล่งใจ ไม่ว่าจะอย่างไร ก็โปรแกรมเอไอ ให้เป็นมนุษย์จริงๆ โศกเป็น ทุกข์เป็น แค้นเป็นไม่ได้...
นี่เอง จึงเป็นข้อด้อย ให้ ดร.สัจภูมิ จับไต๋เอไอออก...เขียนเรื่องสั้นได้ แต่ไม่ถึงรสถึงชาติ
แต่ข้อดีของเอไอก็มี เมื่อเอไอไม่สุขไม่ทุกข์ แต่ความจำแม่นยำ ความรู้ก็มั่นคงชัดเจน เอไอจึงเป็นมนุษย์ที่ไม่มีอคติ เพราะรักชังเกลียดกลัว...เราควรจะเอาเอไอ มาใช้ในกระบวนการยุติธรรม ได้แล้วหรือยัง?
กิเลน ประลองเชิง