“แม่ภนิดา” ควง “ทนายเดชา” ขึ้นศาลจังหวัดนนทบุรี ฟังคำฟ้องของอัยการโจทก์ บรรยายฟ้องคนบนเรือสปีดโบ๊ต ประมาทจนทำให้แตงโมพลัดตกเรือเสียชีวิตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ระบุคดีคืบหน้าไปมาก สืบพยานไปแล้ว 8 นัด นัดนี้เป็นนัดที่ 9 เหลือประมาณ 36 นัด คาดศาลจะตัดสินในปี 68 ด้านแม่แตงโมไม่หวั่นอดีตที่ปรึกษายื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท ท้าให้ฟ้องได้เลยทุกข้อหา เพราะมั่นใจทนายเดชาเก่งที่สุดแล้ว

ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 ม.ค. นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ พร้อมนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวพลัดตกเรือเสียชีวิต เดินทางมาฟังคำฟ้องของอัยการโจทก์ บรรยายฟ้องคนบนเรือประมาทหลายอย่างจนทำให้ น.ส.ภัทรธิดา หรือแตงโม ตกเรือสปีดโบ๊ตเสียชีวิตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อช่วงดึกคืนวันที่ 24 ก.พ.65

นายเดชากล่าวว่า วันนี้มานัดสืบพยานโจทก์ มีทั้งหมด 15 ปาก เป็นพนักงานอัยการที่จะนำสืบเรื่องเหตุการณ์ตกเรือเสียชีวิตของแตงโม ขอบคุณนางภนิดาที่ให้โอกาสตนอีกครั้ง และหวังว่าจะไม่เทอีก ตั้งแต่เป็นทนายให้นางภนิดามาครั้งก่อน 77 วัน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จะได้ว่าความ เหมือนกับได้พบรักใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้ต้องเตรียมเอกสารหรือหลักฐานอะไรใหม่หรือไม่ นายเดชากล่าวว่า ไม่ต้องเตรียม เพราะตนทำคดีตั้งแต่แรก ทราบข้อมูลดีอยู่แล้ว คุยกับชุดสืบสวน พยานอะไรก็รู้หมดแล้ว เพียงแต่มารื้อฟื้นเหตุการณ์ ประเด็นในคำฟ้อง จำเลยทั้ง 4 คน มีแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ เป็นจำเลยที่ 1 ชักชวนกันไปดื่มเหล้าในเรือ คนขับเรือไม่มีใบอนุญาต ไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ จากนั้นปล่อยให้แตงโมเดินไปเดินมาบนเรือ ไม่มีเสื้อชูชีพ ไม่มีห่วงยาง พอแตงโมตกเรือแล้ว ไม่หยุดหรือชะลอช่วย จนเป็นเหตุให้แตงโมถึงแก่ความตาย เป็นเหตุให้จำเลยทั้ง 3 มีความผิด

...

“ส่วนจำเลยที่ 4 พนักงานอัยการฟ้องว่าเป็นคนแนะนำให้จำเลยในคดีนี้ ไปโกหกพนักงานสอบสวน ไปพบพนักงานสอบสวนล่าช้า แอลกอฮอล์ในเลือดจะได้หายไป และยังโกหกจำนวนขวดไวน์ ความจริงมีมากกว่า 3 ขวดบนเรือ แต่โยนทิ้งและโกหกว่ามีเพียงขวดเดียว ทั้งหมดเป็นเนื้อหาในคำฟ้อง ส่วนจำเลยจะมีความผิดจริงหรือไม่ ต้องสืบพยานสู้กัน คาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน ก่อนหน้านี้สืบไปแล้ว 8 นัด นัดนี้เป็นนัดที่ 9 เหลือประมาณ 36 นัด กว่าจะตัดสิน คาดว่าปี 68” นายเดชากล่าว

นางภนิดา แม่แตงโม กล่าวว่า หลังนายเดชากลับมาเป็นทนายความ รู้สึกสบายใจมาก เหมือนกับยกภูเขาออกจากอก เพราะมั่นใจในความเก่งของนายเดชา แต่ช่วงก่อนหน้านี้มีเรื่องขัดใจกัน มองคนละอย่าง ไม่ได้ทะเลาะกัน ยอมรับตนใช้ทนายเปลือง ไม่ถูกใจก็เลิก ที่ไม่ถูกใจคือทำคดีให้ไม่คืบหน้า ไม่เก่ง ตัดสินใจกลับมาหาทนายเดชา แต่ถ้ายังเป็นอดีตที่ปรึกษาคนเดิมช่วยดูแลอยู่ แม่ก็ ตายแล้วมาเรียกเงิน 2 ล้านบาท จนขณะนี้ยังไม่ได้คุยกัน ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายชัยวัฒน์ หลังจากเอาเงินแล้วก็หายไปและยังไม่เคยได้เงินคืน

ส่วนกรณีอดีตที่ปรึกษาฟ้องหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังจากที่แม่แถลงข่าวได้ 2 วัน ว่าถูกยักยอกเงินไป แม่แตงโมระบุว่า เบื้องต้นทราบว่าหนีไปอยู่ที่ลาวแล้ว ยืนยันไม่รู้สึกอะไร เฉยๆ มั่นใจตนไม่มีความผิด อีกฝ่ายมีความผิด พร้อมจะสู้คดี ขอตั้งข้อสังเกตว่า อดีตที่ปรึกษา มักเรียกเงินในการฟ้องหลักร้อยล้าน อย่างคดีนี้ 176 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท จนตนต้องรีบมาถอน ไม่เช่นนั้นจะเป็นฝ่ายผิดเอง เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครมาจ่ายหลักร้อยล้าน ก่อนหน้านี้ได้ยื่นเอกสารลดเงินชดใช้ในฝ่ายจำเลยแล้ว ตนมองว่าอดีตที่ปรึกษาน่าจะมีปัญหาเรื่องเงิน อยากได้เงิน

“จัดมาเลย จัดมาหลายๆคดีก็ได้ เพราะไม่มีอะไรที่เขาจะฟ้องได้ ขณะนี้ยังไม่ได้รับหมายศาลยืนยันว่าอดีตที่ปรึกษา ไม่ใช่ทนาย ไม่มีสิทธิ์ฟ้อง คนนี้เป็นทะแนะ ไม่ใช่ทนาย ท้าให้เอาใบประกอบวิชาชีพมาโชว์ ยืนยันจะไม่เปลี่ยนทนายแล้ว รู้สึกเหนื่อยแล้ว ทนายเดชาเก่งที่สุดแล้ว ส่วนประเด็นที่แซนไปออกรายการหนึ่ง และให้สัมภาษณ์ ยังไม่ได้เจอกัน ไม่ได้คุยกัน หากอีกฝ่ายไม่เคือง อนาคตจะได้เห็นภาพจำเลยและโจทก์กอดกันที่ใต้ต้นไม้หน้าสำนักงานทนายคลายทุกข์อีก เพราะแซนยังเคารพและรัก มีสัมมาคารวะ ไม่เหมือนจำเลยบางคนที่ถามว่าทำไมไม่ไหว้แม่ เขาตอบว่า เสียเวลา” นางภนิดากล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนคดีที่นายชัยวัฒน์ โลมากุล โจทก์ ยื่นฟ้องนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 27 พ.ค.67 เวลา 13.30 น.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่