วันที่ 29 ส.ค.66 ที่อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นเบื้องต้นของภาคเอกชน ภายใต้โครงการประเมิน ความสนใจของนักลงทุน (Market Sounding) ในการพัฒนาพื้นที่ในเขตทางพิเศษที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ โดยมีกลุ่มนักลงทุน บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พันธมิตรทางธุรกิจของ กทพ. เข้าร่วมประชุม 27 ราย ว่า กทพ.กำหนดพื้นที่ที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาเชิงพาณิชย์ 25 พื้นที่ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ พื้นที่ศักยภาพในเมือง 7 พื้นที่ ได้แก่ ถนนสีลม อโศก สุขาภิบาล 5 หัวถนนรามอินทรา เพลินจิต อนุสาวรีย์ชัยฯ และปากซอยวัชรพล พื้นที่ศักยภาพชานเมือง 8 พื้นที่ ได้แก่ ถนนศรีสมาน จุดตัดถนนเทพารักษ์ ถนนศรีครินทร์ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ถนนจตุโชติ-วงแหวนรอบนอก และบางปะอิน และพื้นที่เตรียมพร้อมรองรับสู่การติดตั้ง EV Station 10 พื้นที่ อาทิ ถนนพระราม 6 ซอย 20 หน้าด่านรามคำแหง ด่านสุรวงศ์ คลองประปา งามวงศ์วาน เซ็นทรัลพระราม 3 จุดกลับรถลาดพร้าวทาวน์อินทาวน์ เป็นต้น โดยจะนำร่องพื้นที่ย่านอโศก สีลม เพลินจิต และวัชรพล

ส่วนรูปแบบการพัฒนาพื้นที่ถ้าให้เอกชนเช่า ระยะเวลา 3 ปี ถ้าเปิด PPP ระยะเวลา 5-15 ปี หากพื้นที่ใดประสงค์ก่อสร้างอาคารจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างทางพิเศษ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ช่วงไตรมาส 3 ปี 67 และครบทั้งหมดภายในปี 70 สำหรับพื้นที่ที่ให้หน่วยงานรัฐใช้ประโยชน์โดยไม่เก็บค่าเช่า และใกล้หมดสัญญาอาจจะต้องมีการทบทวนขอคืน ทั้งนี้ ปัจจุบันจากพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ได้ประมาณ 3,000 ไร่ กทพ.นำมาใช้เพื่อสาธารณประโยชน์แล้วร้อยละ 37.74 และใช้เชิงพาณิชย์ร้อยละ 9 จึงยังมีพื้นที่ที่จะนำมาพัฒนาได้อีกมากกว่าร้อยละ 53 ซึ่ง กทพ. มีเป้าหมาย เพิ่มการนำพื้นที่ศักยภาพมาดำเนินการพัฒนาเพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์ควบคู่สาธารณประโยชน์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ต่อปี.

...