นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานบอร์ดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ด กทพ. เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2566 กทพ. เสนอขอปรับ ค่าผ่านทางด่วน 3 สาย ได้แก่ ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) และทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) โดยปรับขึ้นประมาณ 10% ตามประเภทรถ (5 บาท สำหรับรถ 4 ล้อ) โดยให้มีผลวันที่ 1  ก.ย.2566 ทั้งนี้ที่ประชุมบอร์ด กทพ.มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นค่าผ่านทางทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ซึ่งเป็นทางด่วนที่ กทพ.บริหารจัดการเอง ออกไป 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.66-29 ก.พ.67 ซึ่งประเมินว่า กทพ.จะขาดรายได้ประมาณ 180 ล้านบาท

ส่วนทางด่วนบางนาฯและทางด่วนรามอินทราฯ ต้องปรับค่าผ่านทางตามเงื่อนไขสัญญากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ฟันด์ (TFFIF) ทุก 5 ปี ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 1 ก.ย.66 ซึ่งบอร์ด กทพ.ได้หารือกับผู้แทนจากกองทุนฯ เพื่อพิจารณาแนวทางการให้ส่วนลดกับผู้ใช้บัตร Easy Pass โดยยังคงจ่ายค่าผ่านทางอัตราเดิม เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.66-29 ก.พ.67 และจะปรับค่าผ่านทางเฉพาะผู้ที่ชำระด้วยเงินสด เพื่อช่วยลดผลกระทบให้ประชาชนลงบางส่วน ทั้งนี้ปัจจุบันทางด่วนบางนาฯ มีสัดส่วนใช้บัตร Easy Pass 50% หรือประมาณ 50,000 คัน ทางด่วนรามอินทราฯ มีสัดส่วนใช้บัตร Easy Pass 50% หรือประมาณ 110,000 คัน ประเมินว่าจะสูญรายได้จากการให้ส่วนลดหรือตรึงค่าผ่านทาง สำหรับบัตร Easy Pass 2 สายทาง ในระยะเวลา 6 เดือน 113 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ กทพ.61 ล้านบาท (55%) รายได้ TFF 51 ล้านบาท (45%)