สาววัย 33 เมาซิ่งเก๋งชนแหลกตลอดทาง ตั้งแต่ถนนเลียบด่วนรามอินทรา มาจนมุมแยกผังเมือง พบมีหนุ่มใหญ่ถูกชนดับอนาถกลางถนน โดยสภาพรถพังยับเยิน พูดจาไม่รู้เรื่อง รับทำงานในสถานบริการ ย่านพระราม 9 จะกลับที่พักรัชดาฯ วัดระดับแอลกอฮอล์เกินกว่า 100 มิลลิกรัม ถูกข้อหาเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. ร.ต.อ.ไพศาล สุธาพจน์ รอง สว.(สอบสวน) สน.มักกะสัน รับแจ้งเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิต บริเวณแยกผังเมือง ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลรามาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางแยก พบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน 5 กษ 1177 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถพังยับ กระจกหน้าด้านซ้ายแตก ภายในรถพบผู้ขับขี่ทราบชื่อ น.ส.ภัทรา โชติโรจน์ฤิทธกุล อายุ 33 ปี อยู่ในอาการเมามาย พูดจาไม่รู้เรื่อง โดยมีนายณัฐพงษ์ กิตินพคุณ อายุ 20 ปี ขี่จยย.ตามมาชี้ให้จับกุม

นายณัฐพงษ์ ให้การว่า ขี่จยย.มาจากย่านถนนเลียบด่วนรามอินทราจะไปหาเพื่อนที่ร้านอาหารย่านถนนรัชดาฯ เมื่อขี่มาถึงเชิงสะพานข้ามคลองชวดใหญ่ ถนนพระราม 9 ได้มีรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ ขับมาด้วยความเร็วสูง ส่ายไปส่ายมาคล้ายคนเมา เฉี่ยวชนรถตนด้านหลังจนล้ม ตนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ตั้งสติได้จึงยกรถขึ้นมาแล้วขี่ตาม  แถมรถคันดังกล่าวยังชนคนขี่รถจักรยานปั่นที่อยู่เชิงสะพานข้ามคลองชวดใหญ่ฝั่งมุ่งหน้าแยกผังเมืองเสียชีวิต แล้วขับหลบหนีมาจนติดไฟแดง ตนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ กระทั่งตำรวจตามมาจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุย้อนไปเชิงสะพานข้ามคลองชวดใหญ่ ห่างจากแยกผังเมืองประมาณ 800 เมตร ช่องทางซ้ายสุดพบศพนายศักดา ฉิ่งกังวานชัย อายุ 47 ปี พนักงานบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) นอนหงายจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ สภาพแขนขาหัก ตรวจค้นในกระเป๋าสะพายพบเสื้อผ้าชุดออกกำลังกาย 1 ชุด ใกล้กันพบรถจักรยานปั่นทางเรียบ สภาพพังยับ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

...

สอบสวนน.ส.ภัทรา ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา ให้การเบื้องต้นว่า ทำงานอยู่ที่สถานบริการย่านพระราม 9 กำลังจะกลับที่พักย่านถนนรัชดาฯ ยอมรับว่าดื่มมานิดหน่อย ไม่รู้ว่ารถไปเฉี่ยวชนอะไรบ้าง เมื่อตำรวจนำเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์มาให้เป่า ผลปรากฏค่าแอลกอฮอล์เกินกว่า 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป