พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธ์ ทรงพระนิพนธ์ว่า สมเด็จพุฒาจารย์โต ได้สร้างวัดไว้หลายวัด แต่ละวัด “ท่านชอบสร้างของแปลกๆและโตๆ”

(ปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง เล่มพระสมเด็จฯ ตรียัมปวาย สำนักพิมพ์คลังวิทยา พิมพ์ครั้งที่ 6 พ.ศ.2520)

พระโตๆ นับแต่พระนอนวัดสะตือ พระนครศรีอยุธยา พระนั่งวัดไชโย อ่างทอง พระยืนวัดอินทรวิหาร กรุงเทพมหานคร เราดูจะรู้จักกันดีอยู่บ้าง

ส่วน “ของแปลก” มีพระเจดีย์ประหลาดสององค์ ที่วัดละครทำ ตำบลบ้านช่างหล่อ ธนบุรี อยู่ด้านหลังอุโบสถ

“ของแปลก” ต่อมา วิหารพระผินหลัง...ใกล้ๆกับหอฉันหลังใหม่ วัดอินทรวิหารเดิม เจ้าพระคุณได้สร้างวิหารขึ้นหลังหนึ่ง ขนาดกว้าง 3 วา ยาว 5 วาเศษ ฝาผนังก่ออิฐถือปูน หลังคามุงจาก

ภายในวิหาร ประดิษฐานพระพุทธรูป หน้าตักกว้าง 2 ศอก นั่งผินหน้าเข้าหาผนังข้างตะวันออก ระยะห่าง 2 ศอก ด้านตะวันตก สร้างพระเจดีย์ก่ออิฐถือปูน ขนาดฐานกว้าง 2 ศอก ห่างผนังศอกเศษ

ไม่มีใครรู้เจตนา ทำไม สมเด็จจึงสร้างวิหารพระผินหลัง...หลังนี้ไว้ ในเขตที่เป็นละแวกบ้าน

ต่อมา เมื่อทางการตัดถนนสามเสนผ่านบางขุนพรหม วิหารพระผินหลัง ถูกรื้อไป ไม่มีคำบอกเล่า พระผินหลังท่านหายไปอยู่ที่ไหน?

ทิ้งปริศนาให้เข้าใจกันเอง เหตุที่เจ้าพระคุณสร้างวิหารไว้ในละแวกบ้านคน ท่านจงใจจะเตือนสติ คนสมัยนี้ หันหลังให้วัด หันหลังให้พระศาสนา

นี่คือ ความแยบคายของสมเด็จพุฒาจารย์โตอีกข้อ

ทั้งปริศนาพระเจดีย์นอน และปริศนาพระผินหลัง ที่ “ตรียัมปวาย” เขียนไว้ ต้องถือว่าเป็นข้อมูลเก่า เจดีย์นอนวัดละครทำที่ชำรุดทรุดโทรมไม่เหลือซาก จะถูกปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่หรือไม่? ผมยังไม่มีข้อมูลใหม่

...

แต่มีข้อมูลใหม่ เรื่องพระผินหลัง จากประวัติวัดอินทรวิหาร หัวข้อ พระพุทธปฏิมาปางสมาธิ

พระพุทธรูปองค์นี้ ไม่ระบุเนื้อโลหะหรือเนื้อปูนปั้น เป็นพระประจำวันเกิดสมเด็จพุฒาจารย์โต หน้าตักกว้าง 1 ศอก 9 นิ้ว (ฐานสร้างใหม่)

ข้อมูลของวัด ตรงข้อพระผินหลัง เดิมอยู่ในวิหารกว้าง 3 วา ยาว 5 วา ฝาผนังก่อด้วยอิฐ หลังคามุงจาก หันพระพักตร์เข้าหาฝาผนังด้านตะวันออก ข้างในก่อพระเจดีย์

ข้อมูลชุดนี้มีเพิ่ม...ท่านเจ้าพระคุณ สร้างพร้อมศาลาฟังธรรมหนึ่งหลัง ในละแวกบ้านลาว เมื่อทางการตัดถนนสามเสน จึงแยกวัดเป็นสองวัด วัดอินทรวิหาร (วัดบางขุนพรหมนอก) และวัดใหม่อมตรส (วัดบางขุนพรหมใน)

มีบันทึก นายทรัพย์มีมุทา และนายแสง จันทนากร เป็นหัวแรงพาชาวบ้านอัญเชิญพระผินหลังลงเรือพายมาตามคลองข้างวัดเอี่ยมวรนุช (สมัยนั้นยังมีคลอง) เข้าวัดอินทรวิหาร

อัญเชิญขึ้นประดิษฐานในกุฏิหลังองค์หลวงพ่อโต ด้านทิศใต้ พ.ศ.2515 กุฏิถูกรื้อ จึงอัญเชิญท่านมาไว้ ณ หอสมเด็จพุฒาจารย์โต ด้านหน้าเบื้องขวาองค์หลวงพ่อโต

ข้อน่าเสียดาย ไม่มีการสืบทอดเจตนาท่านเจ้าพระคุณ ไม่ได้ประดิษฐานไว้แบบเดิม คือหันหน้าเข้าฝาผนัง

แต่หันหน้าออกมา เพื่อให้สาธุชนได้กราบไหว้ ขออะไรต่อมิอะไรไปตามวิสัยโลก

ผู้รู้ตั้งสมมติฐาน การสร้างพระผินหลัง สมเด็จพุฒาจารย์ท่าน ตั้งใจทำนายเรื่องราวภายหน้า

จะมีผู้ใช้อำนาจ ยัดเยียดข้อหาพระ...พระดีๆอย่างพระพรหมดิลก วัดสามพระยา ศาลเพิ่งตัดสิน ท่านบริสุทธิ์ คืนสมณศักดิ์ให้ มีเสียงนินทากระหึ่มตามมา หลังเลือกตั้ง กรรมจะตามทันนะโยม.

กิเลน ประลองเชิง