เมื่อวันที่ 9 มี.ค.66 ที่ บมจ.ช.การช่าง อาคารวิริยะถาวร กทม.นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล รองประธานกรรมการบริหาร บมจ. ช.การช่าง และกรรมการบริหาร บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM แถลงข่าวกรณีการยื่นประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รฟม.ว่า โครงการดังกล่าว คือการยื่นประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วง ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ และบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าทั้งระบบ จากมีนบุรี-ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ ซึ่งเงื่อนไขของการประมูล คือ รฟม.ให้การสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างโยธา โดยเอกชนก่อสร้างและจัดการเดินรถ เก็บค่าโดยสาร และจ่ายเงินตอบแทนให้ รฟม. รวมทั้งกำหนดเทคนิคการก่อสร้าง
นายพงษ์สฤษดิ์กล่าวว่า เงื่อนไขการประมูลที่ รฟม.กำหนด ไม่ใช่เงื่อนไขที่เอื้อต่อ ช.การช่าง หรือล็อกสเปกให้ ช.การช่าง แต่อย่างใด เพราะเป็นเงื่อนไขที่เปิดกว้างและปฏิบัติทั่วไป เช่น ต้องมีประสบการณ์ด้านรถไฟฟ้า งานอุโมงค์ โดยผู้ประมูลอาจยื่นเป็นกลุ่มก็ได้ หรืออาจจะยื่นรายเดียวได้ เช่น อิตาเลียนไทย มีบริษัท อินชอน จากเกาหลีใต้ที่มีประสบการณ์รถไฟฟ้าใต้ดินมาร่วม ในขณะที่ ช.การช่าง มีประสบการณ์จากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่มีบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ BEM ดำเนินการอยู่ จึงยื่นในนามบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ รายเดียวเท่านั้น
รองประธานบริหาร ช.การช่าง กล่าวว่า บริษัทชนะการประมูล โดยยื่นข้อเสนอขอเงิน สนับสนุนงานโยธา 81,871 ล้านบาท ขณะที่ยื่นเสนอจ่ายเงินตอบแทนให้ รฟม. 3,583 ล้านบาท ซึ่งผลประโยชน์สุทธิเท่ากับ-78,288 ล้านบาท หรือรัฐจะให้งบสนับสนุน 78,288 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากการเจรจากับ รฟม. หลังเปิดซองประมูล รฟม.ขอให้บริษัท ตรึงราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีส้มในวันเปิดใช้ สายตะวันออกใช้เป็นเวลา 10 ปี ให้เท่ากับสายสีน้ำเงินที่ 17-42 บาท จากในสัญญาเริ่มต้นที่ 20 บาท รวมทั้งให้บริษัทรับผิดชอบการบำรุงรักษาสถานีและระบบรถไฟฟ้าในส่วนสายตะวันออก มีนบุรี-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ที่ก่อสร้างเสร็จแล้วและรอการติดตั้งระบบเดินรถ ซึ่งต้องใช้งบประมาณเดือนละ 25 ล้าน บริษัทก็ตกลงยินดีดำเนินการตามที่ รฟม.ร้องขอ ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า ข้อเสนอที่บริษัทเสนอ มีมูลค่าต่างกับเอกชนรายหนึ่งที่เคยเสนอกว่า 6.8 หมื่นล้านนั้น นายพงษ์สฤษดิ์ชี้แจงว่าจากผลการศึกษารถไฟฟ้าสายสีส้ม จะมีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 2 แสนคน ซึ่งต่ำกว่าสายสีเขียว 8 แสนคน และสายสีน้ำเงิน 4 แสนคน ดังนั้นรายได้จากการโดยสารที่จัดเก็บจะไม่สูง โดยเฉพาะในช่วงปีแรก ฉะนั้นตัวเลขที่เสนอมาดังกล่าว หากมาจากผลการศึกษานี้คงเป็นไปได้ยาก
...
ต่อข้อถามว่าหนักใจหรือไม่กับการโจมตีของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายพงษ์สฤษดิ์ ตอบว่า ประเด็นนั้นคนที่จะชี้แจงคือ รฟม.ไม่ใช่บริษัท ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลต่อผลทางคดีที่ศาลปกครองหรือไม่ รองประธานบริหาร ช.การช่าง ตอบว่า ไม่กังวลอะไร เพราะเป็นการฟ้องร้องการประมูลที่ล้มไป ไม่เกี่ยวกับการประมูลครั้งใหม่.