เมื่อวานนี้ผมเขียน “ซอกแซก” ชวนท่านผู้อ่านไปเที่ยว “บางกอกเวิลด์” โครงการใหม่ของ “สวนสยาม” ทะเลกรุงเทพฯ ที่เนรมิตพื้นที่กว่า 70 ไร่ ให้เป็น “กรุงเทพฯจำลอง” หรือ “กรุงเทพฯย่อส่วน” เสร็จสรรพเรียบร้อย และเปิดให้เข้าชมหลายเดือนแล้ว โดยไม่ต้องเสียสตางค์

คุณไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ผู้ให้กำเนิด “สวนสยาม” ได้ทุ่มเทเงินลงทุนไปกว่า 4,000 ล้านบาท ในการ “ซีรอกซ์” ของดีของกรุงเทพฯมาไว้สำหรับเดินชมเดินเที่ยวได้จบภายในครึ่งวัน

มีทั้ง “เสาชิงช้า” จำลอง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจำลอง โรงหนัง เฉลิมกรุง เฉลิมไทย จำลอง ไชน่าทาวน์ หรือประตูเข้าสู่ ไชน่าทาวน์ เยาวราชแถวๆวงเวียนโอเดียนจำลอง ฯลฯ สร้างได้เหมือนของจริงเป๊ะ

คุณไชยวัฒน์เคยให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่จำเป็นต้องตัดสินใจทุ่มเงินเนรมิตโครงการนี้ ก็เพราะในช่วงหลังๆรายได้ของ “สวนสยาม” เริ่มจะถดถอยลง แม้ก่อนโควิด-19 อาละวาดก็เริ่มลดลงแล้ว

ท่านจึงตัดสินใจในการก่อสร้างโครงการบางกอกเวิลด์ โดยยอมตัดขายที่ดินบางส่วนเพื่อเป็นทุนรอนเบื้องต้นในการก่อสร้าง

แม้ในข้อเท็จจริงคุณไชยวัฒน์จะวางมือจากการบริหาร “สวนสยาม” ทะเลกรุงเทพฯ และให้ลูกๆไปบริหารจัดการหมดแล้ว โดยตัวท่านเองออกไปยืนดูอยู่ห่างๆ

แต่ด้วยความท้าทายของสถานการณ์และปัญหาดังที่กล่าวไว้แล้ว ส่งผลให้คุณไชยวัฒน์ต้องออกมาแถลงข่าวการสร้าง บางกอกเวิลด์ ด้วยตัวท่านเอง พร้อมกับยืนยันว่าจะเป็นโครงการใหญ่ โครงการสุดท้ายของท่าน

ประสา “คนรุ่นเดียวกัน” และเดินข้าม “สะพานพระราม 8” มาเรียบร้อยด้วยกันคือ มีอายุผ่านหลักเลข 8 นำหน้าด้วยกัน ผมก็อดเป็นห่วงเป็นใยท่านเสียมิได้

...

เพราะด้วยอายุขนาดนี้แม้จะยังแข็งแรงและทำงานอย่างอื่นได้อีกมาก แต่จะต้องมาใช้ความคิดในการบริหารจัดการโครงการทางธุรกิจที่มีมูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท ผมก็เกรงว่าจะเหน็ดเหนื่อยเกินกำลังไป

แต่เมื่อเห็นแววตาที่ยังเต็มไปด้วยประกายของความกระตือรือร้น และพร้อมสู้ของท่านในข่าวโทรทัศน์เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ก็รู้ว่าท่านยังมีไฟผมก็ค่อยเบาใจลงและแอบเอาใจช่วยท่านมาห่างๆจนถึงทุกวันนี้

เขียนถึง คุณไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ แล้วก็นึกถึงนักธุรกิจด้านท่องเที่ยวอีกรายหนึ่งที่เป็นบุคคลรุ่นๆเดียวกัน แต่อายุอ่อนกว่าผมหน่อย ยังไม่ข้ามสะพานพระราม 8 แต่ก็มาถึงแถวๆวิสุทธิกษัตริย์ เตรียมตัวจะข้ามในปีหน้าปีโน้นอยู่รอมร่อ

คุณผิน คิ้วคชา ผู้ให้กำเนิดสวนสัตว์เปิด “ซาฟารีเวิลด์” นั่นแหละครับ

จำได้ว่าคุณผินเกิด พ.ศ.2487 เพราะฉะนั้นปีนี้ก็คงย่าง 79 ปี ใกล้ถึงสะพานพระราม 8 เต็มทีอย่างที่ว่า

ได้ข่าวว่า ช่วงโควิดอาละวาดก็เหนื่อยหนักเช่นเดียวกัน เมื่อรายได้ของซาฟารีตกฮวบฮาบ และบางช่วงบางตอนก็ต้องปิดตัวตามคำสั่งของกระทรวงสาธารณสุข ช่วงระบาดหนักๆ

แต่เมื่อรัฐบาลเปิดประเทศเรียบร้อยผมก็เดาว่า น่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เพราะลูกค้าหลักของที่นี่ ได้แก่ นักท่องเที่ยวอินเดีย...ซึ่งแน่นขนัดมาตั้งแต่ยุคท่องเที่ยวบูมโน่นแล้ว

ที่ไหนที่ไหนอาจจะมีทัวร์จีนไปลงเยอะ...แต่ที่นี่ซาฟารีเวิลด์ ทัวร์จีนบางตาครับ...ไปทีไรก็เห็นแต่ทัวร์อินเดียแน่นไปหมด

เมื่อไม่นานมานี้ผมผ่านไปแถวๆเมืองทองธานี ซึ่งไม่ทราบว่ามีงานอะไร แต่มีรถทัวร์ของนักท่องเที่ยวอินเดียมาจอดหลายคัน แสดงว่านักท่องเที่ยวอินเดียก็กลับมาแล้วเช่นกัน

ผมเห็นปุ๊บก็นึกถึง ซาฟารีเวิลด์ ปั๊บ คาดเดาว่า ป่านฉะนี้ลูกค้าอินเดียคงกลับมาอุดหนุนเหมือนเดิมเรียบร้อย

ที่สำคัญสวนสัตว์ของท่านยังไม่มีการลงทุนใหม่อะไรมากนัก ดังนั้น ความเสี่ยงคงไม่มากเช่นกัน...ความเหนื่อยของคุณผินจึงน่าจะน้อยกว่าคุณไชยวัฒน์เยอะ ว่าอย่างนั้นเถอะ

แต่ถึงกระนั้นก็ขอเอาใจช่วยไปพร้อมๆกันทั้ง 2 ท่านเลยนะครับ เพราะพิษสงของโควิด-19 นั้น ร้ายกาจจริงๆขนาดนักธุรกิจหนุ่มๆสาวๆหรือวัยกลางคนไฟแรงยังกระอักกันเป็นแถวๆ

จะไม่ให้ผมเป็นห่วงและเอาใจช่วยนักธุรกิจ “รุ่นผม” หรือรุ่น “สะพานพระราม 8” ที่ยังไม่ยอมลงจากเวทีได้ยังไงละครับ

ป.ล.สำหรับผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่งที่เพิ่งประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ผมก็แอบห่วงด้วยนะครับ...ได้ข่าวว่าท่านก็อายุ 77 ย่าง 78 แล้ว อีกแผล็บเดียวก็จะข้ามสะพานพระราม 8 ด้วยเหมือนกัน.

“ซูม”