PRINC ลุยตรวจโควิด-19 ชาวจีน ต่างชาติ 24 ชม. พร้อมเสริมทัพ รับผู้ป่วยกัมพูชา-ลาว ปักธงอีสานเมดิคัลฮับ ตั้งเป้าผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มเท่าตัว
เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 66 นายธานี มณีนุตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่าย ปฏิบัติการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จํากัด (มหาชน) หรือ PRINC ผู้ประกอบธุรกิจบริหาร โรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจสุขภาพในนาม ‘เครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์’ กล่าวถึงแผนการให้บริการ สาธารณสุข หลังจีนเปิดประเทศ พร้อมขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในเพื่อนบ้านกัมพูชา ว่า หลังจากบริษัทตั้งศูนย์ให้บริการผู้ป่วยต่างประเทศ (International Customer Services) ขึ้นในโรงพยาบาลในเครือ 3 แห่งในช่วงไตรมาสที่ 3/65 ที่ผ่านมา ได้แก่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี, โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ และโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์รับ ชาวต่างชาติทั้งรูปแบบ Fly-in และ Drive-in ทําให้ปัจจุบันสามารถอํานวยความสะดวกและเพิ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติได้ตามเป้าหมาย และยังมีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดด ตั้งเป้าเพิ่มจํานวนผู้รับบริการชาวต่างชาติจากเดิม 80 เป็น 100% ในปี 2566
โดยเฉพาะหลังจากเมื่อจีนเปิดประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขยกเลิกวัคซีน 2 เข็ม เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้โรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จึงปรับแผนการให้บริการอํานวยความสะดวกนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยและขากลับยังมีข้อกําหนดตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี PCR โดย โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิมากที่สุด ประกาศเปิดให้บริการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งแบบปกติ และแบบ Express ซึ่ง Express ผลได้ภายใน 2 ชั่วโมง พร้อมมีการจัดตั้งทีมล่ามภาษาจีน เพื่อให้บริการในศูนย์ให้บริการผู้ป่วยต่างประเทศ (International Customer Services) พร้อมให้บริการรองรับกรณีผู้ป่วยชาวจีนเข้ารับการรักษาโควิด-19
...
"โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เป็น 1 ในโรงพยาบาลที่ทางสถานทูตจีนวางใจ มีการปรึกษา ติดตามคนไข้อย่างใกล้ชิด ที่สําคัญเรามีเครือข่ายและคู่สัญญาประกันและความช่วยเหลือต่างประเทศ พร้อมประสานเรื่องการรักษาและการดูแลสินไหมผ่าน Medical Assistant Company ทั้งของจีนและระดับนานาชาติ และมีคู่สัญญากับโรงแรมทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล หากเจ็บป่วยหรือต้องการความช่วยเหลือสามารถจัดความช่วยเหลือไปได้ทันที รวมถึงจัดหาสถานที่แยกกักตัวกรณีที่ติดเชื้อในรูปแบบ Hotel Isolation หรือสามารถประสานรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ ขึ้นกับความประสงค์ของผู้ป่วย" นายธานกล่าว
ส่วนอัตราการเติบโตผู้ป่วยชาวต่างชาติกลุ่ม CLMV โดยเฉพาะชาวกัมพูชา รวมทั้งนักธุรกิจจีน ที่ทํางานอยู่ในแถบประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามารับการรักษาในรูปแบบ Drive-in ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา ทางเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ได้มุ่งขยายความร่วมมือการพัฒนาคุณภาพระหว่างประเทศเพื่อส่งต่อผู้ป่วยจากกัมพูชา มารับการรักษาที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี และโรงพยาบาลพริ้นซ์ศรีสะเกษในเครือพริ้นซิเพิลเฮลท์แคร์โดยร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับ หน่วยงาน โรงพยาบาล คลินิก และหอการค้าจังหวัดเสียมเรียบ-อุดรมีชัย เพื่อสร้างเครือข่ายส่งต่อ ผู้ป่วยมอบสิทธิ์การรักษาเทียบเท่าคนไทย พร้อมบริการการแพทย์ครบวงจรทั้งศูนย์ตรวจสุขภาพ ผ่าตัด รักษามะเร็งและให้เคมีบําบัด โดยแพทย์ผู้ชํานาญการเฉพาะทาง และมีแผนงานร่วมมือพัฒนา คุณภาพการให้บริการด้านสุขภาพระหว่างไทย-กัมพูชา
"เราตั้งเป้าให้ กลุ่มพริ้นซ์อีสาน ให้เป็นอีสานเมดิคัลฮับของชาวอีสาน ชาวลาวและกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือของพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์รวม 3 แห่ง ประกอบด้วย รพ.พริ้นซ์ ศรีสะเกษ, รพ.พริ้นซ์ อุบลราชธานี และพริ้นซ์ สกลนคร ที่เตรียมเปิดให้บริการ ปี 2566 และมีแผนขยายรพ.เพิ่ม อีก เพื่อมุ่งขยายบริการสาธารณสุขและให้บริการการแพทย์เฉพาะทางในสาขาที่ขาดแคลน โดยเฉพาะโรคมะเร็งและการรักษาโดยให้เคมีบําบัด โรคทางจักษุ กระดูกและข้อ ฯลฯ เพื่อการเข้าถึงบริการ สาธารณสุขที่มีมาตรฐานอย่างเท่าเทียม ตามปณิธานขององค์กรที่มุ่งสร้างคนที่มีจิตใจของผู้ให้" นายธานีกล่าว
สําหรับศูนย์ให้บริการผู้ป่วยต่างประเทศ (International Customer Services) เพื่ออํานวยความสะดวกและให้คําแนะนําผู้รับบริการชาวต่างชาติ ฯลฯ เกี่ยวกับแผนการรักษา การเดินทาง ค่าใช้จ่าย ภาษาและวัฒนธรรม ฯลฯ ทําให้สามารถดูแลผู้ป่วยร่วมกันตั้งแต่การคัดกรอง วินิจฉัยโรคที่แม่นยํา เพื่อการรักษาที่ตรงจุด ตลอดจนการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประโยชน์ในการรักษา สูงสุด และยังมีการติดตามอาการเมื่อผู้ป่วยกลับบ้านอีกด้วย สําหรับผู้ที่สนใจข้อมูลสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://inter.princhealth.com/
...