ตำรวจ บก.สส.บชน.ร่วมกับชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 รวบเน็ตไอดอล-โมเดลลิ่งดัง “มายด์-วรัญรภัสส์” ตามหมายจับ หลังออกอุบายผ่านเฟซบุ๊ก ให้เหยื่อระดมเงินลงทุนซื้อขายทองคำแท่ง ก่อนเชิดเงินหนี ความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท เจ้าตัวให้การปฏิเสธอ้างมีหน้าที่ชักชวนและโอนเงินให้หัวหน้าขบวนการที่โดนจับไปแล้ว
รวบเน็ตไอดอลดังหลอกลงทุนทองแท่ง เปิดเผยเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 2 ธ.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะ หน.ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT) ที่ 5 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก. (สอบสวน) บก.สส.ภ.2 ในฐานะรอง หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.วรัญรภัสส์ หรือมายด์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ที่อยู่ 36/21 ซอย 4 (นิพัทธ์สงเคราะห์ 1) ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2694/2565 ลงวันที่ 2 ธ.ค.65 ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ ผู้อื่น หรือประชาชน จับกุมตัวได้ย่านถนนประชาราษฎร์ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อปี 61 มายด์-วรัญรภัสส์ กับพวกร่วมกันหลอกลวงประชาชน ด้วยการตระเวนโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก ชักชวนประชาชนทั่วไปมาร่วมลงทุนซื้อขายทองคำแท่ง กล่าวอ้างว่ามีทองคำแท่งราคา ต่ำกว่าท้องตลาด มีการขายเอากำไรเป็นทอดๆ ช่วงแรก ได้กำไรจากเงินส่วนต่างจริง จากนั้นเมื่อผู้เสียหายเกิดความเชื่อใจ จึงใช้อุบายหลอกลวงเพื่อให้ผู้เสียหายระดมเงินมาลงทุนก้อนใหญ่ ก่อนเชิดเงินหนีรวมความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท คดีนี้มีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีไว้หลายแห่งทั่วประเทศ ปัจจุบันมายด์-วรัญรภัสส์ กลายมาเป็น “เน็ตไอดอลชื่อดัง” มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ตำรวจ กก.6 บก.ป. รวบรวมหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ กระทั่งถูกตำรวจชุดลาดตระเวน ออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 จับกุมตามหมายจับ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป.ดำเนินคดี
...
สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารายนี้ให้การปฏิเสธ อ้างว่าปัจจุบันทำงานเป็นโมเดลลิ่งและเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในโลกโซเชียล ช่วงเกิดเหตุปี 61 มีหน้าที่ชักชวนบรรดาผู้เสียหายมาลงทุนและยังมีหน้าที่รับเงินจากเหล่าผู้เสียหายก่อนโอนไปให้ “หัวหน้าขบวนการ” โดยจะหักกำไรเอาไว้บางส่วน ทำให้ถูกดำเนินคดีมาตลอด 4 ปี ต้องเดินทางไปรับทราบ ข้อกล่าวหาและขึ้นศาลหลายแห่ง ส่วนหัวหน้าขบวนการถูกจับกุมไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ชดใช้เงินให้กับผู้เสียหาย