ผู้การจ๋อนำกำลังตำรวจ PCT 5 ล็อกหนุ่มอินเดียสุดแสบ เอาเพชรเก๊ใบเซอร์ปลอมอย่างเนียน ไปจำนำร้านเพชร 21 ครั้ง เสียหายไปกว่า 16 ล้านบาท แต่ละครั้งจะให้ค่าจ้างหนุ่มไทยรับทำจิวเวลรีเป็นคนไปตึ๊ง ครั้งละ 1 หมื่นบาท ขณะที่แขกแสบปฏิเสธ อ้างทำธุรกิจเพชรมา 10 กว่าปี มีเงินหมุนเป็น 100 ล้าน ตำรวจไม่เชื่อ คาดก่อเหตุแบบนี้มานาน อยู่ระหว่างประสานผู้เสียหายร้านจำนำแจ้งความเพิ่มเติม

รวบหนุ่มอินเดียเอาเพชรเก๊ตึ๊งร้านเพชรเสียหายกว่า 16 ล้านบาท เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 4 พ.ย. มีรายงานว่า เมื่อเย็นวันที่ 3 พ.ย. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 จับกุมนายซาจัน ดิบคูมาร์ อายุ 32 ปี ชาวอินเดีย ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ลงวันที่ 3 พ.ย.65 และนายธนะสิทธิ์ สถิตมงคลไพศาล อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/436 ซอยศาลธนบุรี 29/2 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ลงวันที่ 3 พ.ย.65 กล่าวหาว่าร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม ตรวจยึดตั๋วรับจำนำ 10 ฉบับ วัตถุคล้ายเพชร 18 รายการ ใบรับรองเพชร 19 ฉบับ สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม เอกสารเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจเกี่ยวกับเพชร 7 ฉบับ จับกุม นายซาจัน ดิบคูมาร์ ได้ที่ถนนในซอยอินทรพิทักษ์ 1 เขตธนบุรี ต่อเนื่องห้องพักเลขที่ 772/283 คอนโดยู ดีไลท์ เรสซิเดนซ์ ริเวอร์ฟรอนท์ พระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา ของนายซาจัน จับกุมนายธนะสิทธิ์ได้ตามเลขที่บ้านดังกล่าวข้างต้น

ก่อนนี้มีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ว่า ระหว่างวันที่ 15 มิ.ย.-20 ต.ค.65 ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวง เอาเพชรปลอมมาจำนำครั้งละ 1-2 เม็ด ตามร้านสาขาต่างๆ รวม 21 ครั้ง ความเสียหายเป็นเงินกว่า 16 ล้านบาท ตรวจสอบพบว่า คนร้ายเป็นชาวต่างชาติ และแหล่งผลิตทำเพชรปลอมนำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมทำใบรับรอง หรือที่เรียกว่า “ใบเซอร์” ตบตา โรงรับจำนำได้อย่างแนบเนียนจนผู้เสียหายหลงเชื่อ รับจำนำเพชรในราคาที่สูง แต่ได้ “เพชรปลอม” สูญเงินจำนวนมาก

...

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT ชุดที่ 5 ได้วิเคราะห์แผนประทุษกรรม กลุ่มคนร้ายจะลบแก้ไขข้อความบางส่วน โดยทำลายบริเวณของคำว่า “LABGROWN” คือเพชรที่ทำสังเคราะห์ขึ้นในห้องปฏิบัติการ ให้เหลือแค่คำว่า “BGROW” มองเห็นด้วยกล้องที่ส่องกำลังขยาย และจะยิงเลเซอร์ที่ขอบเพชรให้ตรงกับหมายเลขประจำใบรับรอง หรือ “ใบเซอร์” ทั้งตัวเพชรและใบเซอร์ต่างถูกปลอมขึ้นทั้งสิ้น จากนั้น พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด จนพิสูจน์ทราบว่าคนร้าย มี 2 คนคือ นายซาจัน ดิบคูมาร์ และนายธนะสิทธิ์ สถิตมงคลไพศาล ทั้ง 2 คนจะมาก่อเหตุหลอกจำนำเพชรที่ร้านรับจำนำผู้เสียหายพร้อมกันทุกครั้ง

จากข้อมูลการสืบสวนทราบว่า ช่วง ต.ค.65 นายซาจันเดินทางไปมาระหว่างประเทศไทย-อินเดีย 4 ครั้ง ลักลอบนำเพชรปลอมเข้าไทย โดยก่อนหน้าก่อเหตุลักษณะนี้ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง อยู่ระหว่างติดตามประสานกับเหยื่อร้านรับจำนำรายอื่นๆ จากการขยายผลทราบว่า นายซาจันก่อเหตุมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ได้ทรัพย์สินจากการหลอกลวงไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท กระทั่งจับกุมทั้งคู่นำตัวมาสอบสวนที่ บก.สส. บช.น.

สอบสวนนายธนะสิทธิ์รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาให้การว่า ปกติจะทำร้านจิวเวลรี ต่อมานายซาจันมาเสนองานให้รับวางจำนำเพชรตามสถานที่รับจำนำต่างๆ โดยเพชรเตรียมมาจากประเทศอินเดีย มีใบเซอร์ GIA ตรงกับเลขตัวเพชร ขณะที่นายซาจัน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาอ้างว่า ทำธุรกิจค้าขายเพชรมานานกว่า 10 ปี ขายเพชรมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 กะรัต มีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน แต่รับว่าจะเงินค่าจ้างให้นายธนะสิทธิ์ไปจำนำครั้งละ 10,000 บาท ตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ต.ค.65 ได้เงินจากการนำเพชรไปจำนำแล้วประมาณ 13 ล้านบาท

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ขอเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าอย่ารับจ้างไปจำนำหรือทำธุรกรรมใดๆแทนคนแปลกหน้าเพื่อหวังเงินค่าดำเนินการ เพราะอาชญากรรมจะมาในรูปแบบที่ไม่รู้ตัว และจะทำให้ท่านต้องถูกดำเนินคดีอย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อง่ายๆ หากพบเบาะแส แจ้งข้อมูลที่ศูนย์ PCT 08-1866-3000 เวลาราชการหรือสายด่วน บช.สอท.1441 หรือ www.pct.police.go.th  ตลอด 24 ชม.