(ต่อจากวานนี้)

ซึ่งน่าจะสร้างความมั่นใจให้ได้อีกระดับหนึ่งว่าทุกอย่างจะไม่กระทบกระเทือนการใช้ชีวิตของทุกคนอย่างแน่นอน เสาเข็มที่ใช้ก็เป็นระบบเจาะ ไม่ได้ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนแต่อย่างใด พื้นที่ก่อสร้างมีระยะห่างพร้อมระบบกันฝุ่น ซึ่งไม่ใช่การต่อเติมแบบคนข้างบ้านมาทุบมาเจาะแบบที่คิดกันไป

ส่วนประเด็นของการที่จะรื้ออาคารเดิมของ “การเคหะแห่งชาติ” ทิ้งและสร้างตึกใหม่สูงเสียดฟ้าอะไรนั่น ก็คงจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่จะเป็นสำนักงานให้คนทำงานให้พวกเราในชุมชนมากว่า 49 ปี ได้ใช้ทำงานให้พวกเราต่อ ซึ่งปัจจุบันก็เสื่อมโทรมไม่แพ้กัน

เรียกว่าทรุดโทรมไปตามกาลเวลานั่นแหละ

แบบและการก่อสร้างก็ยังไม่ได้อนุมัติ หรือยืนยันว่าจะสูงจนบดบังทัศนียภาพอย่างที่หลายๆฝ่ายวิตกกัน

และที่สำคัญคือ ตอนนี้ทั้ง 2 โครงการกำลังอยู่ในขั้นตอนของการร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อจะนำมาศึกษาถึงความเป็นไปได้และปรับแบบให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับส่วนรวมต่อไป

ซึ่งแน่นอนว่าก็ต้องมีการ “รื้อ” “ทุบทิ้ง” หรืออะไรบ้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเมื่อเสร็จแล้ว ทุกคนจะเห็นถึงความสวยงาม และจะยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ดังเดิม ก็เรียกว่าอีกนานกว่า จะไปถึงปลายทาง

ระหว่างทางก็ต้องมีการกระทบกระทั่งความไม่เข้าใจอะไรกันบ้าง แน่นอนว่าในระหว่างนี้ก็คงมีอะไรให้ได้พูดถึง หรือติดตามกันอย่างใกล้ชิดอีก

ทาง “การเคหะแห่งชาติ” และ “เคหะสุขประชา” เอง พวกเราตระหนักถึงข้อนี้ดี และคงจะไม่ผลีผลามทำอะไร จึงได้เขียนข้อความในจดหมายมาชี้แจงนี้ และขอเน้นย้ำว่า เราจะสร้างสังคมที่ “แบ่งปัน” กัน มี “ความเท่าเทียม” กันของมนุษย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม

...

ประโยคเรียบง่ายแบบนี้แหละที่แสดงถึงความจริงใจ และเชื่อว่า จะทำได้เช่นนั้นจริง

เพราะ “บ้าน” สำหรับทุกคนมันคือ “ชีวิต” ยิ่งอยู่กันมานานความผูกพันความสุขมันก็เนิ่นนานไปตามกาลเวลา

วันนี้มีโครงการใหญ่ๆก้าวเข้ามา พวกเขาก็ย่อมตกอกตกใจกันเป็นธรรมดา ถือว่าเป็น “โจทย์” ที่ “หิน” และ “หนักหนา” พอสมควรงานนี้

แต่ก็เชื่อว่าความตั้งใจบวกกับฝีมือระดับชาติของ “การเคหะแห่ง ชาติ” ที่สร้างบ้านมาแล้วกว่า 700,000 หลัง ตลอดระยะเวลา 49 ปี และ บริษัทน้องใหม่อย่าง “เคหะสุขประชา” จะตีโจทย์ได้แตกและเดินหน้าต่อไปได้ให้ทุกอย่างลงเอยด้วยดี ให้ “ฝันร้าย” ที่ทุกคนนอนไม่หลับกันมาเป็นแรมเดือน กลายเป็น “ฝันดี” ได้หลับลงสักที

อยากให้ลุงซูมเข้าใจและช่วยให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ ได้ “ใจ” ชาวคลองจั่นและคนไทยทั้งประเทศที่ยังต้องการบ้านอีกกว่า 2 ล้านคน ได้มีที่อยู่อาศัย มีบ้านในแบบที่พวกเราทำตลอด 49 ปี และนี่คือปณิธานของเรา

ขอขอบพระคุณ

“ซูม” หมายเหตุ ผมไม่มีความเห็นเพิ่มเติมครับ ไม่ว่าจะเป็นการตอบโต้ การชี้แจง หรือการเปิดประเด็นใหม่ ฯลฯ นอกเสียจากจะนำจดหมายหรือบทความฉบับนี้ลงสู่คอลัมน์นี้โดยไม่ตัดทอนใดๆ

เพื่อความเป็นธรรมแก่การเคหะแห่งชาติ ที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษมา ที่ผม...ในฐานะสื่อมวลชนที่จะต้องนำเสนอความคิดความเห็นให้ครบถ้วนทั้ง 2 ฝ่าย ในกรณีที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น

แต่ก็คงต้องถือโอกาสรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวชุมชนคลองจั่นได้มีการรวมตัวกันแล้ว เพื่อที่จะต่อสู้กับโครงการ “ฝันร้าย” ของพวกเขาต่อไป และดูเหมือนว่าในวันนี้ก็จะมีการรวมพลังประชุมอะไรสักอย่างแถวๆที่ทำการการเคหะแห่งชาติ อย่าลืมติดตามข่าวด้วย

สำหรับผมนั้น ก็อย่างที่หลานๆเรียกว่า “ลุง” นั่นแหละ...อายุผ่านหลัก 80 มาพอสมควรแล้ว แก่เกินกว่าจะขึ้นคานหามไปตี ไปต่อย เอ้ย! ไปต่อสู้กับใครเขาได้...ขอทำหน้าที่เป็นกองเชียร์ให้กำลังใจน้องๆนักสู้ชาวคลองจั่นอยู่ตรงมุมนี้ก็แล้วกัน.

“ซูม”