"สมศักดิ์" มอบรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2565 ยัน ยธ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งขับเคลื่อน "สังคมมีความสุข-ปลอดภัย-ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน" ด้วยการดันกฎหมายป้องกันทำผิดซ้ำ-นิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์

เมื่อวันที่ 20 ก.ย.65 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานประกาศรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2565 โดยมี น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และผู้บริหารกระทรวง เข้าร่วมที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน

โดย นายเรืองศักดิ์ กล่าวรายงานว่า การจัดงานในวันนี้เนื่องจากกระทรวงยุติธรรม ได้มีความริเริ่มขับเคลื่อนงานด้านสิทธิมนุษยชน ด้วยการจัดทำโครงการองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนขึ้น ตั้งแต่ปี 62 ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว เพื่อช่วยเป็นแรงกระตุ้นขับเคลื่อนงานด้านสิทธิมนุษยชน โดยปีนี้มีองค์กรเข้าร่วมกว่า 162 องค์กร

...

ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีความยินดีที่ได้มาเป็นประธานมอบรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2565 ในวันนี้เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้ความสำคัญ และขับเคลื่อนงานด้านสิทธิมนุษยชนมาอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดการมอบรางวัลให้กับองค์กรต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ธุรกิจ วิสาหกิจเพื่อสังคม และภาคประชาสังคม ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการนำสิทธิมนุษยชน มาเป็นพื้นฐานในการบริหารจัดการในองค์กร ซึ่งจะช่วยให้ทุกองค์กร ปฏิบัติงาน โดยไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและลดความเสี่ยง หรือข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การจัดงานในวันนี้ เป็นโอกาสอันดีที่ผู้แทนจากองค์กรต่างๆ จะได้ร่วมรับฟังการแลกเปลี่ยน และถ่ายทอดบทเรียนจากองค์กร ที่ได้รับรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อเป็นแนวทางในการประยุกต์ใช้กับองค์กรของตนเองต่อไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้จัดทำโครงการองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนขึ้น โดยเปิดรับสมัครองค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคธุรกิจ องค์กรวิสาหกิจเพื่อสังคม และภาคประชาสังคม เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งกำหนดให้ใช้แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินของภาครัฐ และกำหนดให้ใช้หลักการ UNGPs และแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน เป็นเกณฑ์พิจารณาตัดสินของรัฐวิสาหกิจ ภาคธุรกิจ องค์กรวิสาหกิจเพื่อสังคม และภาคประชาสังคม

"ผมขอแสดงความยินดีกับทุกองค์กร ที่ได้รับรางวัลดีเด่นและรางวัลชมเชย พร้อมขอขอบคุณทุกองค์กรที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ โดยผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกองค์กรที่มีความตั้งใจ และพยายามขับเคลื่อนงานด้านสิทธิมนุษยชนต่อไป เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่องค์กร ประชาชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะให้ความสนใจ และสมัครเข้ารับการคัดเลือกอีกในปีหน้าอีก" รมว.ยุติธรรม กล่าว

...

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรม ไม่ได้นิ่งนอนใจในด้านสิทธิมนุษยชน โดยได้คิดแนวทางต่างๆที่ทำให้สังคมมีความสุข ปลอดภัย ช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ด้วยกัน เช่น การสร้างนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เพื่อรองรับแรงงานผู้ต้องขังเมื่อพ้นโทษ เพราะจากข้อมูลพบว่ากว่า 35% กลับไปทำผิดซ้ำในรอบ 3 ปี เนื่องจากไม่มีงานทำจึงเลือกกลับไปทำผิดแบบเดิม ตนจึงช่วยหางานรองรับให้ผู้ต้องขัง รวมถึงเป็นการช่วยลดการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย นอกจากนี้ ยังได้สร้างสังคมปลอดภัย ด้วยกฎหมายป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้หญิง ไม่ต้องเจอเหตุสะเทือนขวัญ อย่างคดี นายสมคิด พุ่มพวง ซึ่งกฎหมายนี้จะใช้กำไลอีเอ็มควบคุมบุคคลอันตรายหลังพ้นโทษ เป็นเวลาไม่เกิน 10 ปี เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เขาไปก่อเหตุซ้ำอีก