กรมศุลกากรโชว์ผลงานชิ้นโบแดง ร่วมเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ตรวจคัดกรองไปรษณียภัณฑ์ ที่ศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพ หัวลำโพง พบกล่องพัสดุภัณฑ์จากประเทศเยอรมนี ผ่านไทยปลายทาง สปป.ลาว 2 กล่อง ลักษณะ ต้องสงสัย ก่อนพบยาอีรวมน้ำหนักกว่า 23 กก. มูลค่า กว่า 50 ล้านบาท อยู่ระหว่างประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง สืบสวนจับกุม

กรมศุลฯยึดยาอีนำเข้าจากเยอรมนีลอตใหญ่ เปิดเผยขึ้นที่จุดตรวจคัดไปรษณียภัณฑ์ ศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพฯ หัวลำโพง สำนักงานศุลกากรกรุงเทพฯ (สกท.) เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 ม.ค. นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ฐานะโฆษกกรมศุลกากร พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรกรุงเทพและกองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร ร่วมกันแถลงข่าวตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เอ็กซ์ตาซี หรือยาอี) นำเข้ามาจากประเทศเยอรมนีเพื่อผ่านแดนไป สปป.ลาว มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท

สืบเนื่องเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ประจำจุดตรวจคัดไปรษณียภัณฑ์ ศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพฯ หัวลำโพง (สกท.) ทำการเอกซเรย์และตรวจคัดแยกผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ เพื่อเตรียมส่งปลายทางพบกล่องพัสดุภัณฑ์ 2 กล่องที่ส่งมาจากประเทศเยอรมนี ปลายทาง สปป.ลาว โดยสำแดงเป็นช็อกโกแลตและเมล็ดกาแฟ แต่จากการตรวจสอบภาพเอกซเรย์จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ มีลักษณะน่าสงสัย ภายในกล่องมีการซ้อนกันอยู่ ลักษณะรูปร่างแตกต่างจากที่สำแดง จึงดำเนินการตรวจสอบ แกะกล่องพัสดุเพื่อพิสูจน์ ปรากฏภายในทั้ง 2 กล่อง มียาเสพติดประเภท 1 เอ็กซ์ตาซีหรือยาอีบรรจุในถุงกาแฟสำเร็จรูป โดยมีถุงช็อกโกแลตทับไว้กล่องแรก มียาอีอยู่ถึง 7 ถุง ส่วนกล่องที่สอง มียาอีก 12 ถุง รวมทั้งหมดประมาณ 50,290 เม็ด รวมน้ำหนักกว่า 23 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท เบื้องต้นนำของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

...

นายชัยยุทธเปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า บุคคลนำส่งเป็นคนเดียวกันทั้ง 2 กล่อง ปลายทางใน สปป.ลาวเป็นบุคคลเดียวกัน สำหรับสินค้าทั้ง 2 กล่องเป็นไปรษณียภัณฑ์ที่ส่งมาทางเรือ ทำให้ต้องผ่านการคัดแยกจากไทยก่อนส่งต่อไปยัง สปป.ลาว ถือเป็นครั้งแรกที่พบยาเสพติดในพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม กรมศุลกากรมีความเข้มงวดในการป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติดที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรทางไปรษณียภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเป็นที่พักของยาเสพติดหรือผ่านไปยังประเทศที่ 3 หลังจากนี้จะประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงประเทศต้นทางและปลายทางเพื่อสืบสวนจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติรายนี้ ซึ่งมีความผิดฐานนำของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตาม ม.244 ม.252 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522