ปิดตำนานสายการบินโลว์คอสต์เจ้าแรกของไทย "อุดม ตันติประสงค์" เจ้าของสายการบิน Orient Thai และ วันทูโก เสียชีวิตแล้ว

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 64 แฟนเพจเฟซบุ๊ก บันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบิน ได้โพสต์รูปภาพและข้อความระบุว่า "อุดม ตันติประสงค์ชัย เจ้าของสายการบิน Orient Thai และ วันทูโก เสียชีวิตแล้ว หลังจากพึ่งปิดตำนานสายการบินโอเรียนท์ ไทย ไม่กี่วันก่อน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยครับ หลายๆ คนอาจจะไม่ทราบว่าสายการบิน Low cost สายการบินแรกของประเทศไทย คือโอเรียนท์ ไทย นี่แหละครับ มาก่อนนกแอร์ และแอร์เอเชียเสียอีก คุณอุดมนับว่าเป็นนักธุรกิจผู้บุกเบิกสายการบินต้นทุนต่ำคนแรกๆ ในไทย"

โดยแอดมินแฟนเพจเฟซบุ๊กเปิดเผยกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" สั้นๆ ว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตของคุณอุดม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ หรือ Orient Thai Airlines ให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2538 ภายใต้ชื่อ โอเรียนท์ เอ็กซ์เพรส แอร์ โดยมี อุดม ตันติประสงค์ชัย เป็นเจ้าของ แต่เดิมให้บริการบินในประเทศเป็นหลัก แต่ในเวลาต่อมาก็เริ่มให้บริการบินระหว่างประเทศ เช่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยในปี 2546 จึงเปิดสายการบิน วัน-ทู-โก เพื่อทำการบินในประเทศ ซึ่งทั้งสองสายการบินนับสายการบินโลว์คอสต์เจ้าแรกของไทย ที่ค่าตั๋วเดินทางไปต่างประเทศ และในประเทศเริ่มต้นแค่หลักพันเท่านั้น

ทั้งนี้ โอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ ได้ยุติการให้บริการเที่ยวบินทั้งหมดอย่างถาวรในปี พ.ศ. 2561 เนื่องจากถูกสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. สั่งพักใบอนุญาตทำการบินแบบไม่มีกำหนด เนื่องมาจากปัญหาด้านภาระหนี้สินค้างจ่ายกับหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงค่าเช่าที่จอดเครื่องบินของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และค่าใช้บริการจราจรทางอากาศของวิทยุการบินแห่งประเทศไทย

...

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 62 ศาลกรุงปารีส ฝรั่งเศส มีคำพิพากษาให้จำคุก 4 ปี นายอุดม พร้อมเรียกค่าชดเชย อีก 75,000 ยูโร จากอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่ภูเก็ต เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 50 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 90 คน จากผู้โดยสารทั้งหมด 123 คน ลูกเรือ 7 คน โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาวไทย 33 คน เป็นชาวต่างชาติ 57 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อิสราเอล ฝรั่งเศส (ตัดสินคุก 4 ปี ซีอีโอ "วันทูโก" ฟ้องศาลฝรั่งเศส เหตุบินตกภูเก็ต)  

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 64 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คําสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บริษัท โอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ จํากัด สืบเนื่องจากบริษัท แอร์โร่ พาร์ท อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (Aero Parts International LLC) ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางให้ บริษัท โอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ จํากัด ล้มละลาย ซึ่งศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา

ดังนั้น นับแต่วันที่ศาลได้มีคําสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอํานาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 บุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้ หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ทราบคําสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามมาตรา 24/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา 24/1 แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท ตามมาตรา 173/1 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483

อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชําระหนี้ในคดีนี้จะเป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคําขอรับชําระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคําคู่ความ สํานักงานเลขานุการกรม กรมบังคับคดี หรือ สํานักงานบังคับคดี ซึ่งจําเลยมีภูมิลําเนาอยู่ ภายในกําหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันที่โฆษณาคําสั่งนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กําหนดวันลงโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 5 มกราคม 2564 ซึ่งตรวจได้จากเว็บไซต์ของกลุ่มงานราชกิจจานุเบกษาที่ www.ratchakitcha.soc.go.th