ไม่ได้ขึ้นเครื่องบินนานเท่าไหร่แล้ว คิดถึงบรรยากาศการเดินทางไหม ครั้งนี้พาไปเที่ยวภัตตาคารการบินไทย ธีมขึ้นเครื่องบิน กินเมนูอร่อยแบบชั้นธุรกิจและเฟิร์สคลาส แถมด้วยแผนธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจ

  • ภัตตาคารของการบินไทย ในคอนเซปต์เหมือนได้ขึ้นเครื่องบิน
  • อาหารทั้งหมดมาจากเชฟครัวการบินไทย เป็นเมนู Fine Dining ที่ถูกเสิร์ฟบนเครื่องจริง
  • ต่อยอดธุรกิจเฟอร์นิเจอร์จากชิ้นส่วนเครื่องบิน และ ซิมูเลเตอร์บินกับกัปตันการบินไทย

พักเรื่องเครื่องบินรบสักสัปดาห์ ผู้เขียนขอเสนอเรื่องราวอีกแบบของ การบินไทย กันสักหน่อย แน่นอนว่าขณะนี้สายการบินแห่งชาติของเรากำลังอยู่ระหว่างยื่นขอฟื้นฟูกิจการ อีกทั้งผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมการบินทั้งโลกต่างชะงักงัน การบินไทยก็ต้องถูกระงับเส้นทางบินระหว่างประเทศ มาแล้วหลายเดือน เมื่อไม่มีไฟลต์บิน ไม่มีเครื่องบินบินขึ้น เหล่ากัปตันและลูกเรือ ฝ่ายช่าง พนักงานภาคพื้นดิน ต่างก็ต้องหยุดงานตามไปด้วย แต่ก็มีอีก 1 ฝ่ายที่ยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่องมาตลอด นั่นคือ ครัวการบินไทย ที่ยังคงมีสินค้าอาหารและขนมออกมาจำหน่ายอยู่ทุกวัน

...

ล่าสุดก็มีโครงการเปิดร้านอาหาร ที่สำนักงานใหญ่ริมถนนวิภาวดี โดยมีชื่องานว่า "อร่อยล้นฟ้า ไม่ต้องบินก็ฟินได้" และได้มีการปล่อยภาพการตกแต่ง ห้องอาหารของการบินไทยบนชั้น 2 อาคาร 2 ใหม่ มีการเอาเก้าอี้ที่นั่งบนเครื่องบินมาวาง มีรถบันไดขึ้นเครื่องบินมาเทียบ เหมือนกับไปขึ้นเครื่องบิน พร้อมแนะนำเมนูที่ปกติมีให้รับประทานเฉพาะเมื่อบินไปต่างประเทศ ในชั้นธุรกิจและชั้นเฟิร์สคลาส จึงเป็นเรื่องน่าสนใจกับธุรกิจใหม่ของแนวคิดร้านอาหารการบินไทยล่าสุดนี้

นางวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายครัวการบินไทย เล่าถึงที่มาที่ไปของร้านอาหารนี้ว่า เนื่องจากการบินไทยไม่ได้มีไฟลต์บินกันมานาน ผู้โดยสารจะยังคิดถึงการบินไทยไหม เราจึงมองว่าอาหารบนเครื่องเป็นตัวที่เชื่อมระหว่างผู้โดยสารกับการบินไทยได้ดี จึงเริ่มต้นจาก "เมนู เชฟ ซิกเนเจอร์" ที่เป็นอาหารกล่องส่งที่บ้าน และรับพรีออเดอร์ โดยเมนูรังสรรค์ปรุงโดยเชฟครัวการบินไทย ตรงนี้ทำให้ได้การตอบรับดี เชฟเราเริ่มเป็นที่รู้จักของสังคม ขั้นตอนต่อมาคือ จากเชฟที่อยู่ในครัวหลังบ้านถึงเวลาต้องเอาออกมาโชว์ได้แล้ว ก็เลยพาเชฟออกมาให้สัมผัสกับลูกค้า ลูกค้าก็จะได้รู้ว่าเบื้องหลังของอาหารแต่ละเมนูที่อร่อย รสชาติดีแบบที่บริการบนชั้นบิสิเนสคลาส เฟิร์สคลาส มาจากฝีมือของเชฟเหล่านี้

กก.ผจก.ฝ่ายครัวการบินไทย กล่าวต่อว่า เราเลยอยากให้ลูกค้าได้มาสัมผัสคนที่อยู่เบื้องหลังอาหารอร่อย เพราะปกติเชฟทุกท่านจะประจำอยู่ที่ครัวการบินไทยสุวรรณภูมิ อันเป็นครัวใหญ่ที่ทำอาหาร 80,000-100,000 ชุดต่อวัน เชฟเหล่านี้เป็นผู้ควบคุมการผลิต และดีไซน์เมนูต่างๆ ให้กับการบินไทย และสายการบินอื่นๆ ที่มาเป็นลูกค้าด้วย แล้วเมื่อไม่มีบิน ก็ถึงเวลาที่เชฟเหล่านี้จะได้มาเจอกับลูกค้าจริงๆ ของเขาภายในงานนี้ ต้องบอกว่าสำหรับคนที่บินกับการบินไทยอาจจะเคยกินแล้ว แต่คนที่ไม่เคยบินกับการบินไทย นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ลองชิม

...

นางวรางคณา กล่าวอีกว่า การที่ไม่ได้บิน เรามองว่าลูกค้าอาจจะคิดถึงบรรยากาศในการเดินทาง บรรยากาศในการนั่งเครื่อง เราก็ควรจะทำอะไรที่ให้ความรู้สึกแบบเก่าๆ สามารถมาถ่ายรูป มาเช็กอิน เลยเริ่มขึ้นจากรถบันได ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเดินขึ้นเครื่องบิน มีกัปตันมีลูกเรือต้อนรับหน้าประตู มีแบ็กดร็อปถ่ายภาพ มีเคาน์เตอร์เช็กอิน มีเก้าอี้ ชั้นธุรกิจและเฟิร์สคลาส มาให้ลองนั่งดู ส่วนเก้าอี้ชั้นประหยุด ก็มาจัดวางคู่กับโต๊ะรับประทานอาหาร โดยเฟอร์นิเจอร์ตัวโต๊ะที่ใช้ในร้านเป็นการนำชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องบินมาสร้างสรรค์ใหม่โดยฝ่ายช่างการบินไทยทำออกมาใช้งาน 40-50 ตัว แล้วตัวภัตตาคารก็ถูกปรับปรุงออกแบบใหม่โดยฝ่ายช่าง และฝ่ายภาคพื้นการบินไทยมาร่วมกันทำทั้งหมด

...

"เรายังมองว่าร้านอาหารนี้ ก็จะเป็นโชว์รูมของการบินไทยด้วยในอนาคตอีก 1-2 เดือน จะมีการติดป้ายราคา เพราะโต๊ะแต่ละตัว เราจะมีคิวอาร์โค้ดให้สแกนดูว่า โต๊ะแต่ละตัวใช้ชิ้นส่วนของเครื่องบินอะไรบ้าง คนจะรู้ถึงที่มาและเรื่องราวของเครื่องบิน เป็นชิ้นส่วนอะไร มาจากไหน ผลิตที่ไหน นัมเบอร์การผลิตอะไร ทั้งหมดมีเรื่องราว เหมาะกับลูกค้าที่ชอบเครื่องบินและสะสมของเหล่านี้ ได้ซื้อกลับไปประดับตกแต่งบ้าน" กก.ผจก.ครัวการบินไทย กล่าว

...

“สำหรับเมนูแนะนำที่เมื่อมาแล้วควรลองชิม อาทิ ซีซ่าร์ สลัดทูน่า ซีซาร์ สลัดแซลมอนรมควัน นี่เป็นเมนูที่เสิร์ฟบนเครื่องจริงๆ โดยเฉพาะน้ำสลัดที่ราดลงไปเป็นสูตรเฉพาะของการบินไทย มีชื่อว่า “ริเวอร์ออฟคิง” และ “รัตนโกสินทร์” อีกเมนู คือ ยากิโซบะ ที่เชฟอาหารญี่ปุ่นทำขึ้น ก็เป็นเมนูที่เสิร์ฟบนไฟลต์ญี่ปุ่นในชั้นเฟิร์สคลาส ช่วงที่บินกลางวันก่อนเครื่องลงจอด ที่เราต้องการให้ผู้โดยสารได้ลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นบนเครื่องก่อนไปกินอาหารญี่ปุ่นจริงๆ หรือ เมนูพาสต้า ที่ถูกนำมาเสิร์ฟในรูปแบบ “Fine Dining” บนเครื่องในชั้นธุรกิจ เป็นต้น ทั้งนี้ ภัตตาคาร จะอยู่ที่ ชั้น2 อาคาร 2 การบินไทย สำนักงานใหญ่ วิภาวดี เปิดทุกวันพุธ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. - 14.00 น."

ด้าน กัปตันสิทธิเดช เหมือนศิลป์ กัปตันเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ การบินไทย หนึ่งในทีมดีไซเนอร์ออกแบบร้านอาหาร กล่าวถึงร้านนี้ว่า แนวความคิดการออกแบบของร้านนี้มาจาก "คิดถึงผู้โดยสาร คิดถึงเครื่องบิน" เมื่อทางครัวการบินไทยตั้งใจจะทำร้านอาหาร ทุกคนก็เลยเข้ามาช่วยกันระดมความคิดที่อยากได้ ร้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนกลับมานั่งเครื่องบินอีกครั้ง แล้วการที่จะได้ความรู้สึกกลับมาขึ้นเครื่อง ก็ต้องเริ่มจากขึ้นเครื่อง เลยได้รถบันไดมาจากเจ้าหน้าที่ภาคพื้น มาเทียบอาคารให้ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็มาทำหน้าต่างให้เหมือนเครื่องบิน เมื่อเข้ามาภายในร้าน เรามองว่าถ้าอยากให้บรรยากาศเหมือนเครื่องบิน ก็ต้องเอาของบนเครื่องบินมาใช้ ก็ติดต่อฝ่ายช่าง เขามีเก้าอี้ที่ไม่ได้ใช้แล้วจำนวนหนึ่ง ก็เอามาหุ้มเบาะทำใหม่ เอาชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องบิน มาทำเป็นโต๊ะกลางบ้าง โต๊ะข้างบ้าง จัดบรรยากาศให้เหมือนบนเครื่อง ส่วนอาหารทางครัวการบินไทยมีเมนูอยู่แล้ว ก็ทำราคาลงมาให้จับต้องได้ 

หนึ่งในทีมดีไซเนอร์ออกแบบร้านอาหาร กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่มาที่ร้าน ก็มีบอร์ดดิ้งพาสให้คนที่มาเป็นเหมือนของที่ระลึก มีเลขไฟลต์ให้ คือ TG8922 พร้อมวันเวลาเป็นที่ระลึก จุดเช็กพ้อยต์แรกในร้านที่ให้คนมาถ่ายรูป คือ สิ่งที่เรียกว่า สปินเนอร์โคน หรือ ดุมใหญ่ที่ติดอยู่หน้าเครื่องยนต์ หน้าที่หลักคือป้องกัน จนท.ภาคพื้นดินไปโดนใบพัดฟัน เพราะความจริงตัวเบลดหรือใบพัดในเครื่องที่มีกว่า 40 ใบ แต่ละใบราคา 1.2 ล้านบาท เป็นชิ้นส่วนราคาแพง คนที่ชอบเครื่องบินเรามีคิวอาร์โค้ดให้สแกน เพื่อให้ได้รู้ถึงที่มาที่ไป และเรื่องราวของชิ้นส่วนทุกชิ้น พร้อมทั้งข้อมูลทางเทคนิค ถ้าเป็นคนที่ชอบเครื่องบินนี่คือสวรรค์

กัปตันสิทธิเดช กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งโครงการที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ คือ เปิดซิมูเลเตอร์ หรือ เครื่องฝึกจำลองการบิน ให้สำหรับคนอยากบินเครื่องบินโดยสาร แต่ไม่อยากเรียนภาคทฤษฎี มาถึงทำบัตรนักบิน ถ่ายรูป เตรียมอุปกรณ์ บรีฟสั้นสอนขั้นตอนนิดหน่อยแล้วให้เข้าซิมบินเลย เรามีเมนูเหมือนข้อสอบเลือกได้ ตั้งแต่บินสมจริง ไปจนถึงแอดเวนเจอร์ เลือกเมืองเลือกสนามบินได้ตามแพ็กเกจที่จัด ต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ นอกจากนี้ สำนักงานสีลม และ หลานหลวงจากนี้ก็จะพยายามทำให้เป็นธุรกิจมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอแผนฟื้นฟูก่อน โดยอาจจะทำร้านอาหารอีก แต่อาจจะเปลี่ยนธีมให้แตกต่างไป

สำหรับแฟนคลับเครื่องบินโดยสาร หรือผู้ที่ชื่นชอบเครื่องบิน หรือ แฟนพันธุ์แท้ของสายการบินไทย เชื่อว่าเมื่อได้เห็นข่าวแล้วก็คงจะไม่พลาดที่จะได้มาสัมผัสประสบการณ์ ร้านอาหารธีมเครื่องบิน โดยเท่าที่ได้สังเกตเมนูอาหาร และราคาจำหน่ายถือว่าอยู่ในระดับที่จับต้องได้ และไม่ได้แพงมาก หากเทียบกับการรับประทานอาหารตามร้านดังๆ อีกทั้งเมนูแต่ละวันก็จะสลับสับเปลี่ยนกันไป นี่เป็นอีกทางรอดของการบินไทย ในช่วงที่รอแผนฟื้นฟู เพื่อเตรียมพร้อมจะกลับไปบินอีกครั้ง ก็อาจจะแวะมารับเอาบรรยากาศไปพลางๆ กันก่อน ไว้เมื่อมีการบินได้ตามปกติเมื่อไหร่ ก็คงได้เดินทางกันให้หายคิดถึงแน่นอน.

เรื่องและภาพ : จุลดิส รัตนคำแปง