เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก หลายประเทศคุมไม่อยู่ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 2.78 แสนราย มาอยู่ที่ 15,511,157 ราย รักษาหาย 8,813,886 ราย เสียชีวิต 633,396 ศพ จากการรายงานของศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 24 ก.ค.

  • สหรัฐฯ จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นไม่หยุด สูงสุดอันดับ 1 ของโลก ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 6.91 หมื่นราย มาอยู่ที่ 4,038,748 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,150 ศพ สูงที่สุดในโลกช่วงรอบวันที่ผ่านมา อยู่ที่ 144,304 ศพ

  • รัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐฯ ได้แซงหน้ารัฐนิวยอร์ก ขึ้นเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดไปแล้ว อยู่ที่ 421,857 ราย ส่วนรัฐอื่นๆ ที่มียอดผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 หมื่นราย ได้แก่ รัฐนิวยอร์ก ฟลอริดา เทกซัส นิวเจอร์ซีย์ อิลลินอยส์ จอร์เจีย แอริโซนา แมสซาชูเซตส์ เพนซิลเวเนีย นอร์ทแคโรไลนา และลุยเซียนา

  • บราซิล ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอันดับ 2 ของโลก ศูนย์กลางการแพร่ระบาดหนักในลาตินอเมริกา ยังคงวิกฤติต่อเนื่อง ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 5.8 หมื่นราย มาอยู่ที่ 2,287,4575 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,317 ศพ มาอยู่ที่ 84,082 ราย ส่วนเม็กซิโก ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 8,438 ราย มาอยู่ที่ 370,712 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 718 ศพ มาอยู่ที่ 41,908 ศพ อันดับ 4 ของโลก



  • อินเดีย กำลังย่ำแย่สาหัสมากสุดในทวีปเอเชีย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ใกล้แตะ 5 หมื่นรายในช่วงรอบวันที่ผ่านมา อยู่ที่ 1,288,108 ราย อันดับ 3 ของโลก เสียชีวิตเพิ่ม 755 ศพ มาอยู่ที่ 30,601 ศพ อันดับ 6 ของโลก ตามมาด้วยปากีสถาน ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 1,763 ราย มาอยู่ที่ 269,191 ราย เสียชีวิต 32 ศพ มาอยู่ที่ 5,709 ศพ

  • แอฟริกาใต้ ศูนย์กลางการระบาดรุนแรงในทวีปแอฟริกา ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 1.3 หมื่นราย มาอยู่ที่ 408,052 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 153 ศพ มาอยู่ที่ 6,093 ศพ และจากสถานการณ์การระบาดอย่างรวดเร็วในทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะทางตอนใต้ของทวีป ทำให้องค์การอนามัยโลก แสดงความกังวล



  • สถานการณ์ในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อนบ้านของไทย ขณะนี้อินโดนีเซีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุด ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 1,906 ราย มาอยู่ที่ 93,657 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 117 ศพ มาอยู่ที่ 4,576 ศพ ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 2,121 ราย มากที่สุดในอาเซียนช่วงรอบวันที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 74,390 ราย เสียชีวิต 28 ศพ มาอยู่ที่ 1,871 ศพ ส่วนสิงคโปร์ ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 354 ราย มาอยู่ที่ 49,098 ราย เสียชีวิตคงที่ 27 ศพ



  • ไทย อันดับที่ 104 ของโลก พบผู้ป่วยรายใหม่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 10 ราย เข้าสถานกักกันของรัฐ หรือ State Quarantine ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,279 ราย รักษาหายแล้ว 3,107 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 114 ราย ยอดผู้เสียชีวิตคงที่ 58 ศพ

  • ผู้ป่วยใหม่รายแรก นักศึกษาหญิงไทย อายุ 23 ปี เดินทางมาจากซูดาน มาถึงไทยวันที่ 10 ก.ค. เข้าพักสถานที่เฝ้าระวัง State Quarantine จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อวันที่ 21 ก.ค.

  • ผู้ป่วยใหม่รายที่ 2 นักเรียนหญิงไทย อายุ 18 ปี กลับจากปากีสถาน มาถึงไทยัวนที่ 12 ก.ค. เข้าพักสถานที่เฝ้าระวัง State Quarantine ในกรุงเทพฯ ตรวจพบเชื้อวันที่ 21 ก.ค.

  • ผู้ป่วยใหม่รายที่ 3 นักเรียนชายไทย อายุ 18 ปี เดินทางกลับจากเยอรมนี มาถึงไทยวันที่ 16 ก.ค. เข้าพักสถานที่เฝ้าระวัง State Quarantine จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อวันที่ 22 ก.ค.

  • ผู้ป่วยใหม่รายที่ 4 หญิงไทย อายุ 37 ปี อาชีพค้าขาย เดินทางกลับจากเนเธอร์แลนด์ มาถึงไทยวันที่ 18 ก.ค. เข้าพักสถานที่เฝ้าระวัง State Quarantine จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อวันที่ 22 ก.ค.

  • ส่วนผู้ป่วยใหม่อีก 6 ราย ทหารไทย อายุระหว่าง 20-32 ปี กลับจากการฝึกทหารที่ฐานทัพฮาวาย ประเทศสหรัฐฯ จากจำนวน 151 นาย มาถึงไทยวันที่ 22 ก.ค. ผ่านการคัดกรอง ณ ด่านควบคุมโรค มีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก ถ่ายเหลว และผื่นคันตามตัว กระทั่งตรวจพบเชื้อ

  • ผู้ป่วยแยกตามพื้นที่รักษาในแต่ละภูมิภาค ทั้งผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศ 2,444 ราย และผู้ป่วยในสถานที่เฝ้าระวัง State Quarantine จำนวน 342 ราย โดยกรุงเทพฯและนนทบุรี จำนวน 1,803 ราย ภาคใต้ 744 ราย ภาคกลาง 526 ราย ภาคอีสาน 111 ราย และภาคเหนือ 95 ราย

  • จากการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทยมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดสำนักข่าว Bloomberg จัดอันดับให้ไทยเป็นประเทศที่จัดการโควิดได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนา 75 ประเทศ โดยอันดับ 1 เป็นของไต้หวัน อันดับ 2 บอตสวานา และอันดับ 3 เกาหลีใต้ 

...