ตำรวจสืบ 5 รวบหนุ่มขายอุปกรณ์ไอที ทางออนไลน์หึงโหด กระทืบสาวเทรนเนอร์ฟิตเนสวัยเบญจเพสจับหัวโขกพื้นจนก้านสมองกระทบกระเทือนหนัก ต้องนำร่างส่ง รพ.กล้วยน้ำไท ก่อนกุเรื่องเหยื่อถูกชายอื่นทำร้าย ตำรวจชุดจับกุมได้กลิ่นทะแม่ง สืบพบความจริง จับตัวได้ขณะขับรถเก๋งที่เช่ามาระหว่างหลบหนี ด้านเหยื่อสาวยังอาการโคม่า

รวบหนุ่มขายอุปกรณ์ไอทีหึงโหด โดยเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 1 ก.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. รับรายงานจาก พล.ต.ต.สามารถ ศรีศิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 กรณี พ.ต.อ.ปิโยรส กัณหะสิริ ผกก.สส.บก.น.5 นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนกก.สส.บก.น.5 จับกุมนายชนฑิภักร หรือพีท ญานนิลภงค์ อายุ 38 ปี ชาว จ.ตรัง ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ของกลางรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ทะเบียน กต 595 ลำปาง จับกุมตัวได้ที่กลางซอยสุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. นายชนฑิภักร ร่วมกับ น.ส.สุพัตรา หรือตาล ป้องคำศรี อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.ชลนิสา หรือชล อาลัยกลาง อายุ 25 ปี เทรนเนอร์ประจำฟิตเนสแห่งหนึ่งใกล้แยกพร้อมพงษ์ เหตุเกิดที่ห้องพักของฝ่ายชายที่อยู่ย่านบางจากพื้นที่ สน.พระโขนง ต่อมาวันที่ 15 มิ.ย. ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนำตัว น.ส.ชลนิสาในสภาพหมดสติ เบ้าตาทั้ง 2 ข้างบวมปูด ใบหน้าบอบช้ำไปส่งที่ รพ.กล้วยน้ำไท ถนนพระราม 4 โดยนายชนฑิภักรที่คบหาอยู่กับ น.ส.ชลนิสาสร้างเรื่องบอกแพทย์และบรรดาญาติของผู้เสียหายว่าฝ่ายหญิงแอบนอกใจไปมีชายอื่นและถูกฝ่ายชายผู้เป็นมือที่สามทำร้ายร่างกาย จากนั้นผู้ก่อเหตุทั้งคู่แยกย้ายหลบหนี

ต่อมาแพทย์วินิจฉัยอาการของ น.ส.ชลนิสาพบร่างกายถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก ก้านสมองได้รับบาดเจ็บขั้นรุนแรงต้องเข้าผ่าตัดด่วน เป็นเหตุให้ญาติๆของผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ก่อนตำรวจฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ทั้งจุดเกิดเหตุและสถานที่ทำงานของผู้เสียหาย กระทั่งพบหลักฐานว่าผู้ก่อเหตุคือนายชนฑิภักร สาเหตุจากความหึงหวง มี น.ส.สุพัตราร่วมก่อเหตุและพาร่างผู้เสียหายไปส่งโรงพยาบาล รวมทั้งช่วยสร้างเรื่องหลอกญาติๆของเหยื่อ กระทั่งเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. น.ส.สุพัตราถูกจับกุมตัวได้ที่ย่านอ่อนนุช ก่อนขยายผลจับกุมตัวนายชนฑิภักร ขณะหนีมากบดานในซอยสุขุมวิท 49 ดังกล่าว

...

สอบสวนนายชนฑิภักร สารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ไอทีทางออนไลน์ แต่เพราะวิกฤติโควิดทำให้ต้องเลิกกิจการ วันเกิดเหตุลงมือทำร้าย น.ส.ชลนิสา แฟนสาวที่เพิ่งคบหากันจริง เพราะความหึงหวงหลังจับได้ว่า น.ส.ชลนิสาพูดคุยกับชายอื่น จึงทุบตีและเอาศีรษะโขกพื้นไปหลายครั้งจนเจ้าตัวหมดสติ จากนั้นจึงเรียก น.ส.สุพัตรา แฟนอีกคนมาช่วยนำร่าง น.ส.ชลนิสาส่งโรงพยาบาล และกุเรื่องว่า น.ส.ชลนิสาถูกชายคนอื่นทำร้ายร่างกาย

“จากนั้นผมนั่งรถหนีไปที่ จ.ลำปาง ก่อนเช่ารถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ทะเบียน กต 595 ลำปาง ที่เป็นของกลางขับเที่ยว กระทั่งสัญญาเช่าหมด จึงถอดจีพีเอสที่ติดรถออกและขับกลับมากรุงเทพฯ ขโมยป้ายทะเบียนรถหมวดจังหวัดกรุงเทพฯมาใส่เพื่อหลบหนีการติดตามจากบริษัทรถเช่าและตบตาตำรวจ ไม่คิดว่าตำรวจจะทราบความเคลื่อนไหวและติดตามมาจับกุมตัวได้ ขณะตระเวนขับหาที่จอดซ่อนรถเก๋งคันนี้” นายชนฑิภักรกล่าว

เบื้องต้นชุดจับกุมแจ้งข้อหาตามหมายจับแก่นายชนฑิภักร นำส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ส่วน น.ส.ชลนิสา เหยื่อที่ถูกทำร้ายขณะนี้ยังคงนอนพักรักษาตัวที่ รพ.กล้วยน้ำไท ต้องเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา รุ่น 9 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ช่วยระดมทุนทรัพย์โอนเข้าบัญชีนางเทวี อาลัยกลาง ผู้เป็นมารดา เพื่อสนับสนุนค่ารักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง