"บิ๊กธนารักษ์" ออกโรงแจงขอโทษ "วัดพระธรรมกาย" หลังสื่อทำสับสนเสนอข่าวจัดประมูลขายทิ้งที่ดินยึดทรัพย์ ฟอกเงิน ยาเสพติด โยงที่ดินธรรมกาย โรงแรมธรรมกาย หวั่นทำให้เกิดความเข้าใจผิดจึงขออภัย ยันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และอยู่ระหว่างการจัดการของ ปปง. และศาลยังไม่มีคำสั่งให้ทรัพย์สินฯ ตกเป็นของแผ่นดินแต่อย่างใด


เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ แจงกรณีสื่อเสนอข่าว "กรมธนารักษ์เตรียมจัดประมูลขายทิ้งที่ดินยึดทรัพย์ ฟอกเงิน ยาเสพติด จำนวน 300 แปลง ย่านสุขุมวิท สีลม ที่ดินริมน้ำนนท์ และโรงแรมกลุ่มธรรมกาย ในเดือนสิงหาคมนี้" และ "ขณะนี้มีที่ดินนิติเหตุประมาณ 500 แปลง ที่กำลังจะส่งมาให้กรมธนารักษ์ดูแล โดยมีที่ดินของคดีธรรมกาย เป็นโรงแรมย่านรามคำแหง" นั้น ว่า ข่าวดังกล่าวอาจทำให้คณะศิษย์ของวัดพระธรรมกาย และประชาชนทั่วไปเกิดความคลางแคลงสงสัยว่า วัดพระธรรมกาย ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรมดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร หรือเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน หรือคดียาเสพติดหรือไม่ อย่างไร ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียสำหรับวัดในบวรพระพุทธศาสนาได้

"ผมได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าวต่างๆ ไปนั้น ในเบื้องต้นได้กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินการบริหารจัดการทรัพย์สินฯ ในภาพรวม ซึ่งสำนักข่าวต่างๆ ก็ไม่ได้ติดใจในประเด็นใดๆ ตามที่ได้ให้สัมภาษณ์ไป แต่ทั้งนี้ เมื่อมีประเด็นเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย กรมธนารักษ์ก็มิได้นิ่งนอนใจเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วไป จึงได้ประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เพื่อตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นเกี่ยวกับทรัพย์สินในคดีวัดพระธรรมกาย พร้อมสั่งการให้กองพัฒนาธุรกิจและศักยภาพที่ราชพัสดุ และกองบริหารจัดการกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวเป็นการเร่งด่วนแล้ว ผลปรากฏว่า โรงแรมย่านรามคำแหง คือ ที่ดินโฉนดเลขที่ 19412 เลขที่ดิน 1385 แขวงหัวหมาก (หัวหมากใต้) เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 4-0-87 ไร่ พร้อมอาคารโรงแรม Anda Hotel เลขที่ 803 (เดิมเลขที่ 3244) ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จากการกระทำความผิด ราย กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ คดีแพ่ง คดีหมายเลขดำ ฟ. 42/2560 และคดีหมายเลขแดงที่ ฟ. 62/2561 ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว และกรมธนารักษ์ได้รับมอบทรัพย์สินฯ ดังกล่าวจากสำนักงาน ปปง. เพื่อนำมาบริหารจัดการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดต่อไป" อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าว

...

นายยุทธนา กล่าวต่อว่า สำหรับคดีวัดพระธรรมกายตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นกรณีที่วัดพระธรรมกายรับเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จํากัด เพื่อนำมาดำเนินโครงการอาคารมหารัตนวิหารคด สถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของสำนักงาน ปปง. และศาลยังไม่มีคำสั่งให้ทรัพย์สินฯ ตกเป็นของแผ่นดินแต่อย่างใด

นายยุทธนา กล่าวอีกว่า จากที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น โรงแรมย่านรามคำแหงที่ตกเป็นของแผ่นดินตามคำพิพากษาของศาลและโดยประการอื่น จึงมิได้เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายแต่ประการใด ทั้งนี้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปนั้น เป็นการให้สัมภาษณ์ในภาพรวมทั้งหมดของทรัพย์สินที่ถูกยึดดำเนินคดี ทั้งในความผิดตามกฎหมายยาเสพติด กฎหมายฟอกเงิน และกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริต เป็นต้น ซึ่งมีทรัพย์สินเป็นจำนวนมากมายหลายรายการ จึงอาจเกิดความสับสนไม่เข้าใจถูกต้องตรงกัน ในการนี้ กรมธนารักษ์จะได้ชี้แจงให้สำนักงานข่าวต่างๆ ทราบและแก้ไขรายละเอียดต่อไป และขอโทษมายังวัดพระธรรมกายที่ข่าวดังกล่าว อาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียและความเข้าใจผิดแก่วัดพระธรรมกายได้ จึงขออภัยมา ณ ที่นี้ เป็นอย่างสูง.