ฟ้องแพ่งให้ กทม.จ่ายค่าฝากรถ ดพ.-ระบุ กทม.ไม่ใช่คู่สัญญา

ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ได้มีคำพิพากษาเป็นที่สุด

ในคดีระหว่างบริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) กับกรุงเทพมหานคร โดยศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 โดยพิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจากกรุงเทพมหานครยังไม่ได้แสดงเจตนาต่อบริษัทเพื่อขอรับสินค้าที่บริษัทเก็บรักษาไว้ไปจากการดูแลของบริษัท กรุงเทพมหานครจึงไม่มีหน้าที่ต้องชำระค่าภาระฝากสินค้าขาเข้าตามที่บริษัทเรียกร้อง ศาลฎีกาจึงไม่ได้วินิจฉัยประเด็นอุทธรณ์คืออายุความ เพราะเห็นว่าไม่จำเป็น ทั้งไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง จากคำพิพากษาดังกล่าว บริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าสิทธิเรียกร้องของบริษัทที่มีต่อกรุงเทพมหานครยังมีอยู่เต็มจำนวนและยังไม่ขาดอายุความ

ดังนั้น ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 บริษัทจึงได้ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานครต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางอีกครั้งหนึ่ง เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ กค 136/2560 เพื่อให้กรุงเทพมหานครชำระค่าภาระยกขนสินค้าและค่าภาระฝากสินค้าให้กับบริษัทและเคลื่อนย้าย รถดับเพลิงและรถบรรทุกน้ำออกจากท่าเทียบเรือ ของบริษัท โดยมีจำนวนทุนทรัพย์ถึงวันฟ้อง 1,040,809,382 บาท

ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 สาระสำคัญสรุปได้ว่า การที่รถดับเพลิงมาขึ้นที่ท่าเรือของบริษัทซึ่งเป็นผู้ให้บริการเป็นการส่งมอบไว้ให้บริษัทเพื่อให้ กทม.ในฐานะผู้ซื้อตามสัญญาซื้อขายมารับไปจากบริษัท ทั้งนี้เมื่อบริษัทได้รับคำสั่งโดยชอบให้คืนรถดับเพลิงแก่ผู้ใดก็จะคืนแก่ผู้นั้น พร้อมกับรับชำระค่าภาระต่างๆตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 665 วรรคหนึ่ง โดยบริษัทมีสิทธิยึดหน่วงรถดับเพลิงไว้จนกว่าจะได้รับชำระค่าภาระต่างๆ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 670
ปรากฏว่า กทม.ไม่ได้เป็นผู้ที่นำสินค้า

...

ดังกล่าวมามอบให้บริษัท แต่เป็นตัวแทนสายเรือแห่งหนึ่งเพื่อให้บริษัทเก็บรักษาไว้เพื่อส่งมอบแก่ผู้ที่นำใบตราส่งและใบส่งมอบสินค้า กทม. จึงไม่ใช่คู่สัญญาตามสัญญาฝากทรัพย์กับบริษัท ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องบริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ กทม.ได้ฟ้องแย้งว่า บริษัทไม่มีสิทธิ ยึดหน่วงรถดับเพลิงอันเป็นยุทธภัณฑ์ เนื่องจากบริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้มียุทธภัณฑ์ในการครอบครอง ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องแย้งและยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของ กทม. อย่างไรก็ดี บริษัทประสงค์ใช้สิทธิอุทธรณ์ตามกฎหมายต่อไป หากมีความคืบหน้าประการใดในเรื่องดังกล่าวบริษัทจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป.