(ภาพ) สุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์
ต้องเปลี่ยนรองผู้ว่าทำหน้าที่แทนผู้ว่า
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ม.ค.ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พนักงาน กทพ. และสหภาพพนักงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) กว่า 500 ราย นัดแต่งชุดดำเพื่อแสดงเจตจำนงคัดค้านการ
ขยายสัมปทานโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ให้กับ บมจ. ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด หรือ BEM และขับไล่นายสุรงค์ บูลกุล ประธานบอร์ด กทพ. หลังมีมติเห็นชอบให้ต่อขยายสัญญาสัมปทานระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ออกไปรวมระยะเวลา 15 ปี 8 เดือน โดยตามกำหนดการที่ระบุไว้ นายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการ กทพ.และคณะผู้บริหาร จะมาชี้แจงต่อพนักงาน เกี่ยวกับการขยายสัมปทานโครงการดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาที่กำหนดนายสุชาติได้ติดต่อมาว่าติดภารกิจไม่สามารถเข้าร่วมประชุมชี้แจงครั้งนี้ได้ ขณะที่คณะผู้บริหาร กทพ.ระดับรองผู้ว่าการ ก็ไม่มีใครเข้าร่วมแม้แต่สักคนเดียว ทำให้พนักงาน กทพ. และ สร.กทพ. แสดงความไม่พอใจ และวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ว่า ตำแหน่งรองผู้ว่าการ กทพ.ถือว่าเป็นพนักงานสมควรที่จะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับพนักงานรับทราบ และร่วมต่อสู้กับพนักงาน ต่างจากตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ.เป็นลูกจ้าง กทพ. ซึ่งพนักงานก็เข้าใจเพราะผู้ว่าการ กทพ.ต้องถูกกดดันในระดับนโยบาย และการลาออกถือว่าเป็นฮีโร่ อย่างไรก็ตาม ก็ควรจะมาชี้แจงเหตุผลการลาออก แต่กลับไม่ยอมมาชี้แจง ไม่ทราบด้วยเหตุอะไร
น.ส.ยุวธิษา ธัญญเจริญ รองประธานฝ่ายวิชาการ สร.กทพ.กล่าวว่า มติ สร.กทพ.เห็นว่า ขณะนี้เรื่องการขยายสัมปทานโครงการเข้าสู่คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ที่มีนายชยธรรม์ พรหมศร ผอ.สนข. เป็นประธานในวันที่ 13 ม.ค.นี้ เพื่อพิจารณาแนวทางตามมติบอร์ด กทพ. วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่เสนอให้ขยายสัญญาสัมปทาน 15 ปี 8 เดือน ก่อนส่งสัญญาให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ จากนั้นจะส่งให้ รมว.คมนาคมพิจารณานำเข้าที่ประชุม ครม. ทั้งนี้ สร.กทพ.ทราบว่าในการประชุมคณะกรรมการกำกับฯ ที่กำหนดในวันที่ 13 ม.ค.นี้ จะมีการแต่งตั้งรองผู้ว่าการฝ่ายกฎหมายขึ้นมาเป็นกรรมการและเลขานุการ แทน นายสุชาติ ซึ่งตามกฎหมายสามารถทำได้หรือไม่ เนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวกรรมการและเลขานุการ จะต้องเป็นผู้ว่าการ กทพ. โดยตำแหน่ง หากดำเนินการต่อไปอาจจะทำให้มติของคณะกรรมการกำกับที่ออกมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ร
...
ายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนตัวเลขานุการคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 และเร่งประชุมให้ได้ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ เนื่องจากนายสุชาติยังไม่ลงหนังสือเชิญประชุม หากไม่สามารถประชุมในวันดังกล่าวได้ จะทำให้ขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมายเสียเวลามากขึ้น และอาจจะไม่ทันสัญญาสัมปทานเดิมที่จะหมดอายุ ในวันที่ 29 ก.พ.นี้.