"เศรษฐพงค์" ลุย กทม.จัดระเบียบสายสื่อสาร ลั่นเป้าหมายต้องนำสายลงดินได้หมดทั่วประเทศ "ภาดาท์" เผย กมธ.จับมือ กสทช.ผลักดันกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นระบบ-ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 6 ม.ค.63 คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ กมธ.ดีอีเอส นำโดย น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธาน กมธ.ดีอีเอส พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กมธ.ดีอีเอส น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ และโฆษก กมธ.ดีอีเอส และคณะได้ลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาดูงานโครงการจัดระเบียบสายสื่อสารและนำสายสื่อสารลงใต้ดิน

โดย น.ส.กัลยา ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่บริเวณถนนพหลโยธิน ซอย 7 ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ผู้ประกอบกิจการ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อสังเกตการณ์ปฏิบัติการจัดระเบียบสายสื่อสารระยะทาง 1 กม. โดยทางผู้ประกอบกิจการที่รับผิดชอบได้ดำเนินการตรวจสอบสายสื่อสารติดแถบสีบนสายเคเบิลที่ใช้งาน จากนั้นได้ดำเนินการรื้อถอนสายขาด สายไม่ได้ใช้งาน ออกจากเสาไฟฟ้าและมัดรวมให้เรียบร้อยตามมาตรฐานการไฟฟ้า ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

...

"การจัดระเบียบสายสื่อสาร ก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และทำให้บ้านเมือง ท้องถนน มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เกิดทัศนียภาพที่สวยงาม น่าอยู่ น่าท่องเที่ยว ซึ่งทางกรรมาธิการฯ ได้กำชับไปยัง กสทช. และผู้ที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินให้สำเร็จตามแผน หากพบว่ามีเส้นทางใดที่อยู่นอกแผนการดำเนินงาน แต่มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จะเร่งนำเส้นทางเหล่านั้นบรรจุเข้าแผนเพื่อดำเนินการให้เกิดความเรียบร้อยต่อไป" ประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าว

ด้าน พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า วันนี้เราได้สัมผัสการทำงานในพื้นที่จริง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับการจัดระเบียบสายสื่อสารพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ในปี 2563 ได้รับการสรุปจาก กสทช.ว่ามีทั้งหมด 8 เส้นทาง ระยะทางรวม 37.7 กม. รวมทั้งยังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ ในถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม และถนนรัชดาภิเษก สำหรับพื้นที่ส่วนภูมิภาคมีแผนจะจัดระเบียบสายสื่อสารใน 74 จังหวัดทั่วประเทศ คิดเป็นระยะทางรวมมากกว่า 4,000 กม. โดยทางสำนักงาน กสทช. จะได้ให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม และผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ทุกรายดำเนินการให้เป็นไปตามแผน นอกจากนี้ยังมีโครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดินอีกทั้งในส่วนของ กทม. และส่วนภูมิภาครวม 48 เส้นทาง ซึ่งเรื่องดังกล่าว กมธ.ดีอีเอส ได้ติดตามการดำเนินโครงการมาโดยตลอด เพราะเราเห็นถึงความสำคัญที่ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่มากไปกว่านั้นคือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เรายืนยันว่าจะติดตามโครงการจัดระเบียบและนำสายสื่อสารลงใต้ดินต่อไป เพื่อให้การดำเนินการงานสำเร็จลุล่วงได้ตามแผนโดยเร็วและมีคุณภาพ เพื่อเป้าหมายการนำสายลงใต้ดินให้หมดทั่วทั้งประเทศ

ขณะที่ น.ส.ภาดาท์ กล่าวว่า ตนเองในฐานะส.ส.กทม. เห็นปัญหาเกี่ยวกับสายสื่อสาร สายไฟฟ้าที่โยงพันกันอยู่บนเสาไฟฟ้าอย่างไม่เป็นระเบียบ และสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุในหลายพื้นที่ ซึ่งตนติดตามตรวจสอบและประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เร่งดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารในเบื้องต้นโดยเร็ว และวันนี้ได้มาเห็นการทำงานของผู้ประกอบกิจการ ในการจัดระเบียบสายสื่อสาร ถือว่ามีความเรียบร้อยดี แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากและได้มีการหารือกับ กสทช.ในวันนี้ด้วย ก็คือการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่นับวันจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ หากปล่อยให้ย่อยสลายตามธรรมชาติจะใช้เวลาหลายสิบปีหรือนานกว่านั้น รวมทั้งยังมีกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งเราอยากให้มีระบบบริหารจัดการในการกำจัดที่เป็นมาตรฐาน ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเรื่องนี้ทาง กสทช. ก็เห็นด้วยและยินดีที่จะร่วมมือกับ กมธ.ดีอีเอส ในการผลักดันให้มีการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ