เปิดปีใหม่-ลุยอีก ขายหวยออนไลน์

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ยอมแพ้ ประเดิมปี 2563 เตรียมเคาะสลากรูปแบบใหม่ แย้มอยากทำหวยออนไลน์ ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในการขาย แก้ปัญหามอมเมาเยาวชน หลังผลงานตลอดปี 2562 ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้สลากเกินราคา แม้จะออกเลขชุด 2-2-1 แต่รายย่อยยังรวมชุดขายสลาก 2 ใบ จนราคาพุ่งปรี๊ด 200 บาท สูงกว่าที่สำนักงานสลากกำหนด

หมดปีเก่าเข้าปี 2563 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ยังมะงุมมะงาหราแก้ปัญหาผู้ค้าขายสลากเกินราคาไม่ได้ รวมถึงการหาแนวทางแก้ลำหวยใต้ดินที่ยังไม่สะเด็ดน้ำ โดยนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือบอร์ดสลาก เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ว่า คาดว่าในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563บอร์ดสลากฯจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนสำหรับแนวทางการออกผลิตภัณฑ์ใหม่หรือสลากรูปแบบใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาด เนื่องจากคณะอนุกรรมการศึกษาสลากรูปแบบใหม่ที่มีนายธนวรรธน์ พลวิชัย เป็นประธาน ได้ศึกษาและพิจารณาแนวทางสลากรูปแบบใหม่ทั้งสลากรูปภาพ 12 นักษัตรที่เคยมีมติเห็นชอบแนวทางไปแล้ว สลากลอตโต้ สลากออนไลน์ และสลากรูปแบบอื่นๆเกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว หากในการประชุมบอร์ดสลากเห็นชอบแนวทางสลากรูปแบบใหม่ในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้าแล้ว หลังจากนั้นจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ประมาณ 6-12 เดือน เพื่อให้สังคมได้ถกเถียงให้ตกผลึก ถึงจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเพื่ออนุมัติการออกสลากใหม่ต่อไป

“โดยส่วนตัวผมอยากเห็นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในการขายสลาก อาทิ ขายผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน เป็นต้น โดยผู้ที่มาเล่นเกมสลากรูปแบบใหม่นี้ สำนักงานสลากฯจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน อาทิ อาจจะให้ใส่เลขที่บัตรประจำตัวประชาชนก่อนซื้อสลาก เพื่อที่ระบบได้ตรวจสอบว่าอายุเท่าไหร่ ทำงานอะไรบ้าง มีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีหรือไม่ เป็นต้น” อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าว พร้อมยืนยัน การออกสลากรูปแบบใหม่นี้จะไม่กระทบสลากใบ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของสำนักงานสลากฯที่มีอยู่ในตลาดแน่นอน เพราะมองว่ากลุ่มคนที่ซื้อจะเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายกัน โดยข้อดีของสลากรูปแบบใหม่ที่จะเกิดนี้คือมีจะการกำหนดอายุคนซื้อสลาก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการมอมเมาเยาวชน

อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่ง–รัฐบาลมาขึ้นรับเงินรางวัลได้ง่ายขึ้น สำนักงานสลากฯกำลังพิจารณาเพิ่มช่องทางขึ้นรางวัลสลากให้ประชาชน ผ่านธนาคารออมสินทั่วประเทศ หลังจากอนุญาตให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) สามารถขึ้นรางวัลได้ โดยธนาคารออมสินจะเก็บค่าธรรมเนียมเพียงร้อยละ 2 ถูกกว่าร้านรับซื้อรางวัลของเอกชน ที่เสียค่าธรรมเนียมถึงประมาณร้อยละ 4-5 อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายใน 3 เดือน น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะสามารถให้ธนาคารออมสินรับขึ้นรางวัลสลากได้หรือไม่

“ในเรื่องการตรวจรางวัล จะนำพนักงานออมสินมาอบรมเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องการตรวจสอบสลากที่หลายคนกลัวว่าจะเกิดปัญหาการนำสลากปลอมมาขึ้นเงินหรือไม่นั้น สำนักงานสลากฯจะนำเครื่องตรวจสลากที่สำนักงานสลากฯใช้ มาให้พนักงาน นอกจากนี้บนสลากยังมีลายน้ำพิเศษเคลือบอยู่ ลักษณะเดียวกับการผลิตพันธบัตร ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหาในการตรวจสลากปลอม” นายพชรย้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในปีงบประมาณ 2562 ที่ผ่านมา สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีความพยายามแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ปรับปรุงรูปแบบสลากจากเดิมฉบับละ 40บาท หรือคู่ 80 บาท เป็นสลากใบเดียวฉบับละ 80บาท เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และป้องกันความสับสน โดยมีการเพิ่มระบบป้องกันการปลอมแปลงสลาก และการเพิ่มความคมชัดของลายน้ำบนกระดาษให้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มเพดานการพิมพ์สลากจากเดิมอยู่ที่ 90 ล้านฉบับเป็น 100 ล้านฉบับเพื่อแก้ไขปัญหาสลากราคาแพง หรือแก้ทางยี่ปั๊วที่รับซื้อสลากไปขายผู้ค้ารายย่อยในราคาสูง ซึ่งเป็นต้นตอของการปั่นราคาสลากให้แพงขึ้น

ส่วนปัญหาสลากรวมชุด ที่พบการรวมชุดสลากมากถึง 20-30 ใบ และขายในราคาเกินกว่าที่สำนักงานสลากตั้งไว้ใบละ 80 บาท เรื่องนี้ทางบอร์ดสลากฯ มีมติให้จัดทำสลากแบบรวมชุด 2 ใบขึ้นมาขายในราคา 160 บาท เพื่อหวังแก้เกมการรวมเลขชุดของรายใหญ่ โดยการรวมชุดแบบ 2-2-1 คือ การจัดชุด 2 ใบ เป็นจำนวน 2 เล่ม และจัดชุด 2 ใบ อีก 2 เล่ม และมี 1 เล่ม ที่เป็นใบเดี่ยว ซึ่งสลากรวมชุดนี้เป็นสลากในส่วนระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลาก จำนวน 67 ล้านฉบับเท่านั้น
สำหรับสลาก 2 เล่มแรก จะมีเลข 6 หลักเหมือนกัน จำนวน 100 ฉบับ ชุดละ 2 ใบ ส่วนสลาก 2 เล่มต่อมา จะมีเลขหมายเลข 6 หลักเหมือนกัน แต่ไม่ซ้ำกับตัวเลขชุดแรก อีกจำนวน 100 ฉบับ จำนวน 2 ชุด และ 1 เล่มสุดท้าย จะเป็นสลากคละกันทั้ง 100 ฉบับ ซึ่งทำให้รายย่อยแต่ละรายจะได้รับสลากจำนวน 5 เล่มเช่นเดิม แต่จะทำให้ผู้ค้าสลากนำไปรวมชุดได้ยากขึ้น

อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการรวมชุดได้ เนื่องจากพ่อค้ารายย่อยใช้แอปพลิเคชันไลน์ติดต่อกันเพื่อนำสลากมารวมชุด โดยสลากเลขดังยังขายในราคาสูงถึงคู่ละ 200 บาท ส่วนหากรวมเลขชุด 10-15 ใบ จะขายในราคาชุดละ 1,500-2,000 บาท

ส่วนวิธีสุดท้ายที่สำนักงานสลากดำเนินการ คือ การเห็นชอบผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือสลากรูปภาพ 12 นักษัตร เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เพื่อหวังจะสู้กับหวยใต้ดินที่ปัจจุบันมีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 500,000 ล้านบาทต่อปี แต่หลังมีข่าวสลากรูปภาพออกไป สำนักงานสลากฯก็ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์และคัดค้านมากมายจากคนในสังคม โดยนักวิชาการมองว่าวิธีนี้ไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหาได้แท้จริง ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหวยใต้ดินได้ มีแต่จะมอมเมาให้คนไทยเล่นพนันมากขึ้น ส่วนผู้ค้ารายย่อยก็มองว่าตัวเองจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เพราะคนจะซื้อสลากน้อยลงเนื่องจากมีทางเลือกมากขึ้น สำนักงานสลากฯ จึงพับเรื่องนี้ และส่งเรื่องไปยังคณะอนุกรรมการศึกษารูปแบบใหม่อีกครั้งเพื่อศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นร่วมกับสลากรูปแบบอื่นๆ