ฎีกายืนตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ สั่งประหารชีวิต “อาร์ตู” มือฆ่าหั่นศพเพื่อนชาวสเปนในคอนโดฯ ย่านห้วยขวาง ขนชิ้นส่วนศพใส่ถุงดำขี่รถ จยย.ไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาอำพรางคดี ศาลชี้ข้อฎีกาผู้ต้องหาฟังไม่ขึ้น ตำรวจมีพยานหลักฐานสอดคล้อง หลังล่ามแปลคำพิพากษาถึงกับเครียดตัวแดงเถือก ทนายเผย เตรียมขอพระราชทานอภัยโทษตามระเบียบเรือนจำ พร้อมขอแลกเปลี่ยนตัวนักโทษเพื่อกลับไปรับโทษต่อที่ประเทศสเปน

ศาลฎีกายืนประหารชีวิตหนุ่มสเปนฆ่าหั่นศพ เปิดเผยขึ้นที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 พ.ย. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีพนักงานอัยการคดีอาญาเป็นโจทก์ฟ้องนายอาเธอร์ เซการา พรินเซพ หรืออาร์ตู อายุ 40 ปี สัญชาติสเปน เป็นจำเลย ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฐานลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังฯ ฐานลักทรัพย์และข้อหาอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (4) 199 และ 310

อัยการฟ้องว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.59 เวลา 08.20 น. พบชิ้นส่วนแขนขามนุษย์ลอยมาในแม่น้ำเจ้าพระยา ติดอู่ต่อเรือเอกชนแห่งหนึ่งใกล้วัดคฤหบดี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด และยังพบชิ้นส่วนมนุษย์ อีกหลายชิ้นลอยมาในแม่น้ำเจ้าพระยาเขตรับผิดชอบ สภ.เมืองนนทบุรี สภ.ปากเกร็ด และ สภ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ชิ้นส่วนมนุษย์เป็นของนายเดวิด เบอเนต โมราด ชาวสเปน ทางการสืบสวนทราบว่า จำเลยพาผู้ตายเข้าไปในห้องพักพีจีพระราม 9 คอนโดมิเนียม ย่านห้วยขวาง จากนั้นฆ่าผู้ตายก่อนหั่นศพและนำชิ้นส่วนไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาตามจุดต่างๆแล้วหลบหนี กระทั่งตำรวจสืบสวนจับกุมได้ขณะหลบหนีไปที่ตลาดการค้าชายแดนบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด จำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

...

คดีนี้ศาลอาญาชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนให้ประหารชีวิตสถานเดียว และให้ชดใช้เงินคืนแก่ญาติผู้ตาย 734,940 บาท กับให้ริบรถจักรยานยนต์ เครื่องเจีย ใบเลื่อย และตู้แช่แข็งของกลางด้วย วันนี้ศาลเบิกตัวนายอาเธอร์ จำเลยมาศาลหลังถูกคุมขังมานานกว่า 3 ปี นับตั้งแต่ถูกจับกุมและฝากขังครั้งแรกเมื่อเดือน ก.พ.59 อ่านคำพิพากษาใจความว่า ศาลพิเคราะห์แล้ว ประเด็นที่จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงว่า คดีไม่มีประจักษ์พยาน พยานบุคคลหวั่นเกรงอิทธิพลเจ้าหน้าที่ คำเบิกความของพยานโจทก์รับฟังไม่ได้ จำเลยไม่ได้บังคับผู้ตายให้รับสารพิษ มีบุคคลอื่นติดต่อผู้ตายทางโทรศัพท์และไลน์ ผู้ตายฆ่าตัวเอง และจำเลยไม่ได้โอนเงินผู้ตายเข้าบัญชีตนเอง เห็นว่า คดีนี้เจ้าพนักงานตำรวจตรวจพบชิ้นส่วนศพชาวยุโรปถูกหั่นด้วยของมีคม 3 ชิ้นทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากนั้นตำรวจ สน.บวรมงคล สอบสวนพบว่า เป็นศพผู้ตาย โจทก์มีพยานบุคคล 3 ปากเป็นช่างซ่อมบำรุงชาย พนักงานทำความสะอาดหญิง และ รปภ.ชาย พบเห็นจำเลยกับผู้ตายที่คอนโดฯ และจำเลยขี่รถ จยย.ออกไปพร้อมถุงขยะสีดำแล้วกลับมาโดยไม่มีถุงขยะ สอดคล้องกับภาพกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของคอนโดมิเนียม และพยานบุคคลไม่ได้ถูกอิทธิพลของบุคคลอื่นเพื่อให้การยืนยันว่า จำเลยเป็นผู้กระทำผิด และภาพกล้องวงจรปิดเชื่อถือได้

ที่จำเลยอ้างว่า ก่อนเสียชีวิตผู้ตายติดต่อกับ บุคคลต่างๆและแชตไลน์คุยกับชายชาวยุโรปอีกคน พร้อมแสดงภาพถ่ายบันทึกการใช้โทรศัพท์กับบุคคลดังกล่าว ให้ถือเป็นข้อสันนิษฐานเพื่อเป็นประโยชน์กับจำเลยว่า มีบุคคลอื่นมาเกี่ยวข้องนั้น ศาลเห็นว่า ข้อสันนิษฐานดังกล่าวไม่มีประโยชน์ ที่อ้างว่าพบสารพิษมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ 3 ชนิดในศพผู้ตาย แม้รับฟังว่าพบสารพิษจริง แต่ไม่เป็นประเด็นที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบ ที่จำเลยอ้างว่า นางปริศนา ไม่ทราบนามสกุล เกี่ยวข้องกับการโอนเงินจากบัญชีธนาคารซิตี้แบงก์ สาขาสิงคโปร์ มาเข้าบัญชีจำเลย และดีเอ็นเอที่พบในคมใบจักรเลื่อยลูกหมูไม่มีดีเอ็นเอผู้ตายนั้น ฟังไม่ขึ้น ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยประทุษร้ายผู้ตายเพื่อให้ล่วงรู้รหัสเอทีเอ็มแล้วประสงค์ต่อทรัพย์ ใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อเอารหัสไปกดเงินเข้าบัญชีจำเลย ข้อต่อสู้อื่นของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดจริง พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ให้ประหารชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษามีล่ามแปลภาษาสเปนให้ฟัง นายอาเธอร์ จำเลย ถึงกับเครียดตัวแดงขึ้นมาทันที กระทั่งผู้พิพากษาชี้แจงผ่านล่ามว่า กระบวนการตามกฎหมายไทย หาก คดีถึงที่สุดแล้วจำเลยสามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้

ต่อมาทนายความนายอาเธอร์กล่าวว่า จำเลยทำใจได้ตั้งแต่ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิตแล้วว่า ข้อต่อสู้คดีนี้ค่อนข้างยาก เพราะโจทก์มีพยานหลักฐาน หลังจากนี้ระหว่างรับโทษในเรือนจำอยากให้ตนยื่นขอพระราชทานอภัยโทษตามระเบียบเรือนจำ อย่างไรก็ตาม เมื่อคดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว จำเลยมีสิทธิยื่นเรื่องขอแลกเปลี่ยนนักโทษเพื่อกลับไปรับโทษที่ประเทศสเปนได้