ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ประทับรับฟ้องคดี “เกษม ณรงค์เดช” ฟ้อง “คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา" กับพวกใช้เอกสารปลอมโอนหุ้นวินด์ เนื่องจากพยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมีมูล
เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2562 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ประทับรับฟ้องคดี "เกษม ณรงค์เดช" ฟ้อง "คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา" กับพวกใช้เอกสารปลอมโอนหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) จากนายเกษม ไปอยู่ในชื่อคุณหญิงกอแก้ว เนื่องจากพยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมีมูล
ทนายความของตระกูลณรงค์เดช ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ศาลอาญา ได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีอาญาที่ นายเกษม เป็นโจทก์ฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว กับพวก คือ นายณพ ณรงค์เดช นายสุรัตน์ จิรจรัสพร เป็นจำเลยในฐานความผิดร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอมที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ โดยศาลอุทธรณ์เห็นว่า แม้นายเกษมจะไม่ได้มาเบิกความด้วยตนเองในชั้นนี้ แต่การที่นายเกษมยื่นฟ้องจำเลยทั้งสามเป็นคดีนี้ และยื่นฟ้องต่อศาลฮ่องกง เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงตามฟ้องของนายเกษมในเบื้องต้นแล้วว่า สัญญาแต่งตั้งตัวแทน ตราสารการโอนหุ้น และใบสำคัญการซื้อขายหุ้น ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้สำหรับการโอนหุ้นจากนายเกษมไปยังคุณหญิงกอแก้ว เป็นเอกสารสิทธิปลอม นายเกษมไม่เคยลงชื่อในเอกสารดังกล่าว
นอกจากนี้ นายเกษม ยังนำสืบให้ศาลเห็นอีกว่า ได้มีการส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อทั้งในประเทศ และต่างประเทศตรวจสอบเปรียบเทียบกับตัวอย่างลายมือชื่อที่แท้จริงของนายเกษม รวมทั้งผลการพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปผลการตรวจพิสูจน์ว่าลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าว ไม่น่าจะเป็นลายมือชื่อของนายเกษม ซึ่งเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงตามคำฟ้องของนายเกษมแล้วว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม
...
การที่ คุณหญิงกอแก้ว ใช้เอกสารดังกล่าวเป็นหลักฐานในการโอนหุ้นให้แก่ตนเอง โดยมี นายณพ ลงลายมือชื่อเป็นพยาน และนายสุรัตน์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนคนเดียวของบริษัทที่เกี่ยวข้องเช่นนี้
จำเลยทั้งสามย่อมจะต้องทราบถึงความเป็นมาของเอกสารดังกล่าว หากเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม จำเลยทั้งสามก็น่าจะทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวเช่นเดียวกัน พยานหลักฐานของนายเกษมที่นำสืบมาในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง จึงมีข้อเท็จจริงในเบื้องต้นของมูลคดีเพียงพอที่ศาลจะประทับฟ้องไว้พิจารณาแล้ว หลังจากนี้ คุณหญิงกอแก้ว นายณพ และนายสุรัตน์ จำเลยทั้งสาม มีหน้าที่จะต้องมาทำเรื่องประกันตัวต่อศาลอาญา โดยศาลอาญามีนัดสอบคำให้การจำเลยทั้งสาม ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562
หลังจากนี้ คุณหญิงกอแก้ว นายณพ และนายสุรัตน์ จำเลยทั้งสาม มีหน้าที่จะต้องมาทำเรื่องประกันตัวต่อศาลอาญา โดยศาลอาญามีนัดสอบคำให้การจำเลยทั้งสามในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปลายปี 61 โดยนายเกษมได้ฟ้องอาญาเอาผิดจำเลยทั้ง 3 คน แต่ต่อมาศาลชั้นต้นพิจารณามีคำสั่งไม่รับฟ้อง ทำให้ นายเกษมได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ จนกระทั่งศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้กลับคำสั่งศาลชั้นต้น โดยให้ประทับรับฟ้องคดีดังกล่าวในวันนี้
สำหรับที่มาของคดีนี้ เริ่มจากปี 2561 ที่กลุ่มนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งและถือหุ้นเดิม บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายณพ และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงนายเกษมด้วย ในคดีซื้อขายหุ้น WEH ที่นายนพพร ขายให้กับบริษัทในกลุ่มเคพีเอ็นของตระกูลณรงค์เดช แต่ต่อมามีปัญหาการผิดนัดชำระค่าหุ้นที่ไม่เป็นไปตามสัญญา จนนำไปสู่การฟ้องร้องคดี
ขณะที่ในอีกฟากของตระกูลณรงค์เดช หลังจากนายเกษมซึ่งถูกฟ้องในคดีนี้ด้วย ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน จนพบว่า หุ้น WEH ที่ได้ถูกโอนจากกลุ่มนายนพพรมาอยู่ในมือของตระกูลณรงค์เดชแล้ว ได้ถูกยักย้ายถ่ายโอนจากบริษัทในเครือของตระกูลณรงค์เดช ไปหลายที่ ก่อนที่ล่าสุดจะถูกถือโดยบริษัท Golden Music Limited ที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง ที่เดิมมีชื่อ นายเกษม เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก่อนที่จะมีการอ้างเอกสารสัญญาแต่งตั้งตัวแทนระหว่างคุณหญิงกอแก้วกับ นายเกษม ให้มีการโอนหุ้นให้คุณหญิงกอแก้วเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท Golden Music Limitedcmo แทน จึงทำให้หุ้น WEH ของตระกูลณรงค์เดช กลับไปอยู่ในชื่อของคุณหญิงกอแก้ว ผ่านบริษัท Golden Music Limited ซึ่งนายเกษมยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการโอนหุ้นและการทำสัญญาต่างๆ โดยยืนยันว่า ลายเซ็นและเอกสารต่างๆ ทำปลอมขึ้นมาทั้งหมด จนนำมาสู่การฟ้องร้องคุณหญิงกอแก้ว และพวกในครั้งนี้.