สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย (ECOT) ร่วมกับ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้จัดสัมมนาเรื่อง "การยกระดับความเข้าใจ ในเรื่องความรับผิดชอบทางสังคมของสถานประกอบการ" โดยมีเลขาธิการสภาองค์นายจ้างแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา

นางสิริวัน ร่มฉัตรทอง เลขาธิการสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย กล่าวในพิธีเปิดว่า ผู้ประกอบการไทยตระหนักถึงความสำคัญของการมี CSR/RBC ในการทำธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม โดยผู้เข้าร่วมงานมาจากองค์กรในภาคยานยนต์และภาคเกษตร นอกจากนี้ยังเน้นว่าการประยุกต์ใช้ CSR/RBC จะสร้างโอกาสมากขึ้นสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ทั้งการขยายผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งหวังว่าการสัมมนาในครั้งนี้จะเป็นเวทีและโอกาสสำหรับผู้เข้าร่วมในการสร้างขีดเส้นใต้ซึ่งกันและกันและทำงานร่วมกันในอนาคต

ในระหว่างการสัมมนามีการนำเสนอโดยผู้เชี่ยวชาญขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ Ms.Yukio Arai เรื่องความรับผิดชอบต่อห่วงโซ่อุปทาน เหตุใดจึงมีความสำคัญกับผู้ประกอบการ SMEs และ ILO กับประสบการณ์ในการส่งเสริมการทำธุรกิจที่มีความรับผิดชอบในประเทศเวียดนาม ตามด้วยการนำเสนอของนายอนวัฒน์ สุพตานนท์ จากเทสโก้โลตัส, นายเถลิงศักดิ์ กลางสาทร จากทีบีเคเค (ประเทศไทย), นายอุกฤษณ์ กาญจนเกตุ จาก ECOT, นายธนกร สมสิน และทีมงานจากสหภาพแรงงานสยามมิชลิน, นายชาลี ลอยสูง จาก TEAM, นายสนธยา เผ่าดี และทีมงานจาก MAC ที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับประเด็นสำคัญของการปฏิบัติด้านแรงงานที่ผู้ประกอบการ SMEs จำเป็นต้องรู้ เช่น

...

แนวปฏิบัติของผู้ซื้อหลักการพื้นฐานและสิทธิในการทำงาน แรงงานสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และการจัดการความเสี่ยงด้านแรงงานสัมพันธ์จะช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กทราบและตระหนักถึงแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงในตลาดของอุตสาหกรรม เพื่อให้ดำเนินการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับกระแสความต้องการของผู้ซื้อและผู้บริโภค รวมถึงการยกระดับแนวปฏิบัติที่ดีด้านแรงงาน การร่วมมือกันของทวิภาคีที่จะช่วยกันเร่งพัฒนา และเสริมสร้างให้เกิดความแข็งแกร่งและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของธุรกิจสืบไป

อย่างไรก็ตาม การสัมมนาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ที่จะยกระดับความเข้าใจ ในความรับผิดชอบทางสังคม ของสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ และมีแนวโน้มในการตรวจสอบจากผู้ซื้อในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นตลอดห่วงโซ่อุปทาน

ซึ่งการสัมมนาในครั้งนี้ได้บรรลุวัตถุประสงค์ทุกประการ โดย ECOT และ ILO ได้รับการยอมรับในความพยายามและการทำงานอย่างหนักในการจัดงานสัมมนา