สหภาพแรงงานธนาคารฯ หวั่นการควบรวมธนาคารธนชาต และทหารไทย ทำคนตกงาน 5 พันคน รุดให้ข้อมูล รมว.แรงงาน หาทางช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่กระทรวงแรงงาน นายไวฑิต ศิริสุวรรณ ประธานเครือข่ายสหภาพแรงงานธนาคารและสถาบันการเงิน 9 แห่ง (BFUN) พร้อมด้วยนายศุภาชัย ภัทรพิศุทธนา ประธานสหภาพแรงงานธนาคารธนชาต เข้าพบ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน และนายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน หารือผลกระทบการควบรวมธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กับธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เนื่องจากมีกระแสการเลิกจ้าง การลดอัตรากำลังลงทั้งสองธนาคารทำให้พนักงานทั้ง 2 ธนาคาร วิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตและความมั่นคงไม่มั่นใจว่าจะยังคงสถานภาพการเป็นพนักงานอยู่หรือไม่ รวมถึงสภาพการจ้างหลังควบรวมกิจการ
นายไวทิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค. เคยยื่นหนังสือที่กระทรวงการคลัง ในฐานะที่ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารทหารไทย และได้ประโยชน์จากการควบรวมครั้งนี้ ให้เข้าไปดูแลการควบรวมและดูแลผลกระทบกับพนักงาน ซึ่งก็ได้มีการชี้แจงมาว่าจะไม่มีการเลิกจ้าง และจะดูแลพนักงานของทั้งสองธนาคารอย่างดีที่สุด หรือถ้าหากจะมีการเลิกจ้างก็จะให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่พนักงานไม่อยากถูกเลิกจ้าง เมื่อยังไม่มีความชัดเจน จึงมาที่กระทรวงแรงงาน เพื่อให้ข้อเท็จจริง เพราะสองธนาคารรวมกันจะมีพนักงาน 2 หมื่นคน แต่ธนาคารที่จะเกิดขึ้นในชื่อใหม่จะใช้คนประมาณ 1.5 หมื่นคน การเลิกจ้างจะเกิดขึ้นแน่นอน จึงต้องป้องกันการละเมิดต่อพนักงาน การบีบทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่วนที่ รมว.แรงงาน เคยส่งคนไปดูทั้งสองธนาคารและบอกว่าไม่ลดคนแน่นอน ไม่ใช่ข้อมูลเชิงลึก จึงต้องมาให้ข้อเท็จจริง
ขณะที่นายศุภาชัย กล่าวเสริมว่า ธนาคารธนชาตจะมีผลกระทบมากกว่า เพราะมีพนักงาน 1.2 หมื่นคน ส่วนธนาคารทหารไทยมีพนักงาน 8 พันคน เมื่อควบรวมงานจะเกิดการซ้ำซ้อน จึงมีการประเมินว่าพนักงาน 4-5 พันคนจะต้องตกงาน กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพหลักแต่ไม่มีความชัดเจน เพราะไปโฟกัสแต่การควบรวมอย่างเดียวและต้อนนี้ก็สมหวังแล้ว มองแต่ผลประโยชน์ที่จะได้รับ แต่พนักงานสองธนาคารกลับไม่ดูแล ไม่ให้ความมั่นคงบอกแต่ว่าไม่ลดคน แต่ไม่ชัดเจน จึงต้องขอให้กระทรวงแรงงานเข้ามาดูแลให้ปฎิบัติตามกฎหมายแรงงาน โดยขอให้พิจารณาเรื่องการควบรวมต้องไม่มีการบังคับให้ลาออกหรือจิ้มออก แต่ให้หางานใหม่ให้พนักงานสามารถทำงานต่อได้อย่างมั่นคง และสิทธิประโยชน์และหน้าที่เดิมของพนักงานจะต้องยังคงอยู่หลังโอนการจ้างงาน ไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่
...
ด้านนายสุทธิ กล่าวว่า รมว.แรงงาน ได้ทราบเรื่องนี้มาก่อนแล้ว และได้มีการคุยกับกระทรวงการคลังด้วยตัวเอง ซึ่งก็ได้มีการยืนยันว่าการควบรวมทั้งสองธนาคารจะไม่กระทบการจ้างงาน จะมีการหางานตำแหน่งอื่น หรือปรับหน้าที่ใหม่ แต่พนักงานวิตกว่าจะถูกเลิกจ้างและจะไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมาย ซึ่งหากเกิดกรณีการเลิกจ้างขึ้นจริง จะเป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงแรงงานในการดูแลพนักงานธนาคารที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับสิทธิความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างครบถ้วน รวมถึงเตรียมมาตรการการช่วยเหลือในด้านต่างๆ นอกจากนี้จะดำเนินการประสานหารือร่วมกับผู้บริหารธนาคารฯ เพื่อรับทราบข้อมูลและแนวทางการปฏิบัติต่อพนักงานเกี่ยวกับสถานภาพความดำรงอยู่ของพนักงานต่อไป