จากกรณีที่ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้น สูงสุดในรอบ 6 ปี และยังปรับตัวขึ้นแรงติดต่อกันหลายวัน ล่าสุด ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ พูดคุยกับ นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ ในประเด็นดังกล่าว ทีมข่าวฯไล่เรียงไว้ให้อ่านเข้าใจง่ายๆ ดังต่อไปนี้
ทองขึ้นแรง ชาวบ้านตาดำๆ อย่างเราควรทำตัวอย่างไร?
ราคาทองขึ้นสูง ชาวบ้านธรรมดาๆ ที่มีทองรูปพรรณอยู่ในบ้าน แนะนำคนเหล่านี้อย่างไรดี? ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า “หากประชนชนที่มีทองรูปพรรณเก็บเอาไว้ สามารถนำมาขายได้นะครับ ช่วงนี้คุณจะได้กำไรเยอะ ซึ่งในกรณีที่จะขายถือว่าราคาดีเลยทีเดียว ฉะนั้น หากอยากจะขายเพื่อทำกำไรก็แบ่งขาย ถ้าอยากซื้อก็ทยอยซื้อครับ”
ทองขึ้นราคา มีสาเหตุมาจาก...
ในขณะเดียวกัน ราคาทองคำในช่วงนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง ซึ่งมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ
1. สงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามกดดันธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- ต่อมา (31 ก.ค.62) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน 10% หลังจากที่จีนไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ เช่น การซื้อสินค้าทางการเกษตร ฯลฯ
- เฟด กังวลว่า สงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น
- ต่อมา จีนทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลง แตะระดับเกือบต่ำที่สุดในประวัติการณ์
- ค่าเงินหยวนจีนผันผวน ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกอาจได้รับผลกระทบ
- แน่นอนว่า ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่พอใจ และทวีตข้อความ (5 ส.ค.) ว่า จีนทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลงแตะระดับเกือบต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งการกระทำนี้เรียกว่า “การปั่นค่าเงิน”
- เมื่อสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังไม่คลี่คลาย จึงเป็นผลให้ราคาทองมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
...
2. ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ส่งผลให้สินทรัพย์ทองคำน่าลงทุน
3. กองทุน SPDR ซื้อทองคำต่อเนื่องไม่หยุด ราว 200 ตันแล้ว จึงเป็นผลให้ราคาทองทะยานขึ้นสูง
“ส่วนราคาทองในประเทศให้แนวรับ 21,500 บาท แนวต้าน 22,000 บาท และต้องจับตาข่าวสงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นข่าวหรือปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาทอง” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าว