องค์กรเด็กออกแถลงการณ์ค้านพิมพ์สลากเพิ่มมอมเมาประชาชน ชี้ข้ออ้างแก้ปัญหาเกินราคาแต่หวังโกยผลประโยชน์เพิ่ม ติงรัฐบาลต้องดูแลคุณภาพชีวิตประชาชน แต่ใช้อำนาจกลับผิดเป็นถูก อัดสำนักงานสลากฯ ไม่แยแสเด็กเยาวชนนำสู่วัฏจักรอัปยศ

ที่เดอะฮอลล์ บางกอก เมื่อวันที่ 4 ก.ค. เครือข่ายคนทำงานด้านเด็กและเยาวชน 30 องค์กร ร่วมกับสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กับสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย จัดเวทีแถลงการณ์วิพากษ์การทำงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ต่อการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ด้วยการเพิ่มปริมาณสลากถึง 100 ล้านฉบับ และการออกผลิตภัณฑ์สลากรูปแบบใหม่

ทั้งนี้ ภาคีเครือข่ายได้ออกแถลงการณ์ แสดงจุดยืนดังนี้ 1. คัดค้านการเพิ่มปริมาณสลากกินแบ่ง รัฐบาล 100 ล้านฉบับ โดยขอให้ทบทวนให้อยู่ในปริมาณ ที่เหมาะสม ไม่ควรเกินจำนวนประชากรประเทศ การเพิ่มจำนวนสลากที่ผ่านมา มิได้ทำให้ปัญหาสลากเกินราคาดีขึ้น เป็นเพียงคำกล่าวอ้างเพื่อเพิ่มปริมาณการมอมเมาประชาชน มุ่งหาเงินเข้ารัฐ ส่งผลกระทบต่อประชาชน 2.ขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายการเพิ่มสลากรูปแบบใหม่ โดยให้มีการศึกษาผลกระทบและจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างรอบด้าน 3.ขอให้รัฐบาลฟื้นกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคมกลับมา เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการพนันในสังคมไทย

รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การเพิ่มสลากโดยอ้างเป็นการแก้ปัญหาสลากเกินราคา เป็นสิ่งที่สำนักงานสลากฯ ต้องทบทวน เพราะ 4-5 ปีที่ผ่านมาใช้วิธีนี้แต่ก็ล้มเหลว และกลายเป็นผลประโยชน์ให้กลุ่มคนนายหน้าที่รวมชุดสลาก รวมถึงสำนักงานสลากฯ และรัฐบาลที่มีรายได้เพิ่มขึ้น สำนักงานสลากฯ เป็นองค์กรเดียวของรัฐที่ทำเรื่องการพนัน การเพิ่มสลากหรือออกหวยรูปแบบใหม่ ต้องคำนึงผลกระทบรอบด้าน ไม่ใช่คิดแต่ผลประโยชน์ รัฐบาลต้องดูแลคุณภาพชีวิตประชาชน ที่ผ่านมากลุ่มคนที่เล่นส่วนมากเป็นผู้มีรายได้น้อย ซื้อเพื่อหวังเปลี่ยนชีวิต แต่ยิ่งไปเบียดบังภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทั้งยังพบมีเด็กและเยาวชนเข้ามาเกี่ยวข้องกับสลาก เนื่องจากกฎหมายสลากกำหนดอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี การเพิ่มสลากหรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่หากคิดบนฐานของการแสวงหาเงินจะนำมาซึ่งความวินาศของสังคม

...

ขณะที่นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า ต้องตั้งคำถามถึงสำนักงานสลากฯ ว่าคิดถึงเด็กและเยาวชนมากน้อยแค่ไหน หรือคิดถึงผลประโยชน์ตัวเองมาก่อน ขณะเดียวกันภาครัฐใช้อำนาจกลับผิดเป็นถูกนั้นถูกต้องหรือไม่ หลายเรื่องบอกไม่ทำ แต่ใช้อำนาจกลับผิดเป็นถูก 2 ปีที่แล้วบอกสลากรวมชุดผิด จากนั้นมาบอกจะทำเอง หวยใต้ดินบอกผิดแต่จะเอาขึ้นมาบนดิน สิ่งที่ทำต่างๆมีความรับผิดชอบหรือไม่

ด้านนายปณิธาณ ศรีสร้อย รองประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยมีนโยบายสร้างภูมิคุ้มกันเด็กเยาวชนไม่ให้เข้าถึงการพนันอย่างจริงจัง จึงอยากให้รัฐจัดสรรงบประมาณการขายสลากมาสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนรณรงค์สร้างภูมิคุ้มกันและแก้ไขปัญหาการเข้าถึงการพนันให้เด็กและเยาวชน น่าเสียดายมากที่รัฐบาล คสช. เคยให้มีการจัดตั้งกองทุนนี้ไว้แล้วแต่กลับถูกยกเลิกไป

ส่วนนายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่สำนักงานสลากฯ ออกนโยบายพิมพ์สลากเพิ่ม ยิ่งมอมเมาให้คนไทยติดการพนันเพิ่มขึ้น จึงไม่เห็นด้วย ทั้งที่ภาครัฐเป็นผู้ควบคุมเรื่องดังกล่าวแต่ทำไมแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ถ้าเราไม่หยุดวงจรในรูปแบบนี้เด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมา เขาจะอยู่ในวัฏจักรอัปยศที่ส่งต่อจากคนรุ่นก่อนมาถึงคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเด็กและเยาวชนแน่นอน ทั้งนี้ อยากเสนอให้สำนักงานสลากฯ กลับไปแก้ไขกลไกทางการตลาด เช่น ยกเลิกพ่อค้าคนกลาง ให้สำนักงานสลากฯ จัดจำหน่ายสลากด้วยตนเอง จะช่วยแก้ไขปัญหาราคาสลากได้ แต่ที่สำนักงานสลากฯ ยังไม่ดำเนินการอาจมีวัตถุประสงค์แอบแฝงบางอย่างหรือไม่ จึงอยากถามคนไทยทุกคนว่าเราภูมิใจหรือไม่ที่ประเทศของเรามีอัตราการพิมพ์ สลากมากกว่าจำนวนประชากรในประเทศไทย