สร้างทางด่วน 2 ชั้น, แบ่ง 60/40-แลกข้อพิพาททั้งหมด

วันที่ 15 พ.ค. นายสุรงค์ บูลกุล เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมบอร์ด กทพ. ว่า ที่ประชุมบอร์ดมีมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาคดีข้อพิพาทฯ ระหว่าง กทพ.กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (BEM) มีนายปกรณ์ อาภาพันธุ์ เป็นประธาน เสนอให้ขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้น 2 รวมส่วนต่อขยายส่วน D พระราม 9-ศรีนครินทร์ และทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด รวม 3 สัญญาออกไปอีก 30 ปี โดยนับตั้งแต่วันสิ้นสุดแต่ละสัญญา และยกเลิกข้อพิพาททั้งหมด และจะไม่มีการฟ้องร้องเรื่องทางแข่งขัน นอกจากนี้ จะมีการปรับลดค่า ผ่านทางบางด่าน และก่อสร้างทางลงเชื่อมสถานีกลางบางซื่อ ส่วนการก่อสร้างทางด่วน 2 ชั้น จากอโศก-ประชาชื่น ให้ดำเนินการภายใน 2 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม หากไม่สามารถก่อสร้างจะลดอายุสัญญาสัมปทานทางด่วน 2 จาก 30 ปีเหลือ 15 ปี สำหรับสัดส่วนการแบ่งรายได้ กทพ. 60 เอกชน 40 และปรับค่าผ่านทางทุกๆ 10 ปี

นายสุรงค์กล่าวว่า บอร์ดเห็นว่าการเจรจาครั้งนี้ดีที่สุดเพื่อระงับข้อพิพาททั้งหมด กทพ.จะไม่มีภาระหนี้สินสามารถเดินหน้าได้ตามปกติ สำหรับข้อห่วงใยของพนักงานเรื่องการบันทึกบัญชียอดหนี้ไว้ในผลประกอบการของ กทพ.นั้น เรื่องนี้ กทพ.จะหารือกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่าจะไม่มีการลงบันทึกบัญชีหนี้แต่อย่างใด เพราะตามผลการเจรจาจะไม่มีหนี้ต่อกันแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะต้องเสนอคณะกรรมการกำกับตาม มาตรา 43 พ.ร.บ.เอกชนร่วมลงทุน โดยเร็วที่สุดเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบต่อไป.