“อนันตพร กาญจนรัตน์” รมว.พม. ย้ำโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะ 2 ต้องเดินหน้าต่อเพราะประชาชนรออยู่ ถ้ารื้อไม่ได้ก็สร้างใหม่ไม่ได้ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ต่อจากนี้ให้คำนึงถึงความปลอดภัยในการรื้อถอนเป็นปัจจัยสูงสุด ด้านผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ระบุต้องชะลอการรื้อถอนอาคารเคหะชุมชนดินแดงออกไปไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ส่วนจะยกเลิกสัญญากับบริษัทรับเหมารื้อถอนหรือไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาของฝ่ายกฎหมาย

จากกรณีการรื้อถอนอาคารเคหะชุมชนดินแดง แฟลต 18-20 แขวงและเขตดินแดง กทม. ไม่ได้มาตรฐานจนเกิดเหตุอาคารถล่มลงมา ทำให้เสาไฟฟ้า 7 ต้นหักโค่นทับรถยนต์ที่จอดอยู่เสียหาย 9 คัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 เม.ย. ต่อมาสำนักงานเขตดินแดงส่งตัวแทนเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ในฐานะที่เป็นผู้ขออนุญาตรื้อถอน รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งกำชับให้ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามระเบียบราชการ รวมทั้งเร่งหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 4 เม.ย. พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) รายงานข้อมูลให้รับทราบแล้ว จึงกำชับให้คำนึงมาตรฐานการรื้อถอนเพราะบริเวณนั้นเป็นชุมชนที่หนาแน่นมาก อาคารตึกกับรั้วเสาไฟฟ้าห่างกันเพียงครึ่งเมตรจึงต้องระมัดระวัง ความจริงแล้วมีการกำหนดมาตรฐานการรื้อถอนอยู่ สำนักงานเขตและสำนักงานโยธาก็มีมาตรฐานตามระเบียบ แต่เป็นเพราะอาคารเก่ามาก การประมาณการรื้อถอนอาจจะคลาดเคลื่อนเพราะคิดว่าอาคารยังแข็งแรง ดังนั้น การรื้อถอนอาคารแบบปกติคงใช้ไม่ได้ ต้องวางแผนสำหรับอาคารเก่าซึ่งสามารถทรุดตัวได้ตลอดเวลา เรื่องนี้ย้ำเตือนไปแล้ว คิดว่าผู้ประกอบการมีประกันอยู่ คงดูแลความเสียหายของประชาชนได้เรียบร้อย ต่อไปนี้ต้องประสานกับทางเขตว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

...

พล.อ.อนันตพรยังกล่าวถึงกรณีที่สำนักงานเขตดินแดงแจ้งความเอาผิดผู้ว่าการ กคช.ว่า ได้ให้ผู้ว่าการ กคช.ไปคุยกับสำนักงานเขตดินแดงแล้วว่ามีความผิดพลาดอย่างไร คงเป็นการฟ้องร้องตามกฎหมาย เบื้องต้นทราบว่าคุยกันเรียบร้อยแล้ว ถ้ามีการปรับและให้รับผิดชอบก็ยินดีดำเนินการตามที่เกิดขึ้น หลังจากนี้กำชับให้รื้อถอนโดยคำนึงถึงอาคารที่รื้อถอนเป็นอาคารเก่า ประสานทุกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 ต้องเดินหน้าต่อ เพราะประชาชนรออยู่ ถ้ารื้อไม่ได้ก็สร้างใหม่ไม่ได้ ตรงนี้ต้องรับผิดชอบร่วมกัน อย่างไรก็ตาม อาจจะทำให้โครงการก่อสร้างใหม่มีความล่าช้าไปบ้างเพราะหากไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับทางเขตและผู้รับผิดชอบได้ก็อาจจะไม่อนุญาตให้รื้อถอนต่อ ตรงนี้เราต้องพยายามทำให้ถูกมาตรฐาน เพราะถ้าดำเนินการต่อไปเร็ว ประชาชนก็ได้อาคารใหม่เร็ว แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สาระหลัก สาระหลักคือทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยในการรื้อถอน

ด้านนายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานเขตดินแดงและสำนักงานโยธาได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและสาเหตุที่เกิดขึ้น เบื้องต้นคงต้องชะลอรื้อถอนออกไปไม่น้อยกว่า 1 เดือน เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วง ส่งทหารเข้าอำนวยความสะดวกทำความสะอาดพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่การเคหะฯ ตนเตรียมเดินทางไปมอบเงินค่าชดเชยรายได้ให้กับผู้เสียหาย ซึ่งเท่าที่ทราบมีเจ้าของรถแท็กซี่ 4-5 ราย และเจ้าของรถส่วนตัว 1 ราย กรณีที่เป็นความเสียหายมากจะได้รับรายละ 5,000 บาท ส่วนที่ เสียหายเล็กน้อยจะได้รับรายละ 3,000 บาท ในส่วนของความเสียหายทางทรัพย์สินทางประกันภัย รับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เกิดขึ้นจะถึงขั้นต้องยกเลิกสัญญาว่าจ้างบริษัทรับเหมารื้อถอนหรือไม่ นายธัชพลกล่าวว่า มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของการเคหะฯไปพิจารณาข้อผิดพลาดของบริษัทรับเหมา เพราะการรื้อถอนที่ผ่านมาดำเนินการไปมากกว่าครึ่งแล้ว โดยในส่วน 3 อาคารแรกซึ่งอยู่บริเวณถนนวิภาวดีได้ดำเนินการไปเสร็จแล้ว เหลือเพียง 2 อาคารฝั่งถนนจตุรทิศ ซึ่งบริเวณนี้เป็นชุมชนแออัด ยากต่อการทำงาน ฝ่ายกฎหมายคงต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขสัญญาต่างๆ เพราะหากบริษัททำตามสัญญา การจะไปเอาผิดยกเลิกสัญญาก็อาจจะถูกฟ้องร้องกลับได้ เพราะความผิดพลาดซึ่งเกิดจากเหตุสุดวิสัยเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ถึงขั้นต้องยกเลิกสัญญา
หรือไม่คงต้องพิจารณาให้รอบคอบ พร้อมกำชับถึงการดำเนินงานทุกด้านต้องยึดมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด