ภารกิจหน้าที่ ตามผู้ต้องหาหนีหมายศาล

“พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ” สังกัดสันติบาล นรต.รุ่น 51 นั่งเก้าอี้ ผอ.ตำรวจศาล คนแรก หลุดเดี่ยวผ่านการคัดเลือกจาก 1 ใน 14 เข้ามาเป็น “จั่นเจา” ประจำสำนักงานศาลยุติธรรม มีหน้าที่ตามจับคนร้ายมาขึ้นศาลตัดสิน เจ้าตัวระบุ ยังพูดอะไรไม่ได้เพราะต้นสังกัดยังไม่ทราบเรื่อง ด้าน “ปุณณพัฒน์” เผย หลังจากโอนย้าย พ.ต.อ.สุรพงศ์ข้ามหน่วยแล้วมีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมดูแลเจ้าหน้าที่ รปภ.ศาลทั่วประเทศ ติดตามผู้ต้องหาสวมกำไลอีเอ็ม และวางโครงสร้างรองรับลูกน้องอีก 40 นาย

ศาลยุติธรรมประกาศผู้ที่ได้คัดเลือกเป็น “จั่นเจา” คนแรก เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 29 มี.ค. สำนักการเจ้าหน้าที่ สำนักงานศาลยุติธรรม ได้ประกาศชื่อบุคคลผ่านการตรวจคุณสมบัติและเป็นผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ในตำแหน่ง ผอ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย หรือ ผอ.ตำรวจศาล ที่ทำหน้าที่เสมือนกับ “จั่นเจา” ตัวละครในซีรีส์หนังจีนดังเรื่องเปาบุ้นจิ้น ได้แก่ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผกก.3 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 (บช.ส.) ผ่านการคัดเลือกเพียงหนึ่งเดียวจากทั้งหมด 14 คน หน่วยตำรวจศาลของศาลยุติธรรมเกิดขึ้นตาม พ.ร.บ.ตำรวจศาล มีหน้าที่จับคนร้ายมาขึ้นศาลตัดสินมีกำลังพลรุ่นแรกจำนวน 40 คน เป็นหน่วยจู่โจมและอารักขามีอาวุธทันสมัย ทั้งนี้สำนักงานศาลยุติธรรม แจ้งให้ พ.ต.อ.สุรพงศ์มารายงานตัวเพื่อสัมภาษณ์ ที่สำนักงานศาลยุติธรรม ในวันที่ 29 มี.ค. เวลา 14.00 น.

ต่อมา พ.ต.อ.สุรพงศ์ได้เดินทางเข้าทดสอบทัศนคติตรงตามเวลาที่นัดหมาย โดยมีนายปุณณพัฒน์ มหาลี้ตระกูล เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา สอบถาม พ.ต.อ.สุรพงศ์เกี่ยวกับเรื่องการคัดเลือกผู้ที่จะเข้าร่วมปฏิบัติงานเป็นหน่วยกำลังเนื่องจากมีที่มาของสังกัดแตกต่างกันจะมีการคัดสรรอย่างไร งานของตำรวจศาลแตกต่างจากงานเจ้าพนักงานตำรวจตาม ป.วิอาญาอย่างไร ยุทธวิธีจับกุมผู้ต้องหา เป็นต้น ใช้เวลานาน 30 นาที พ.ต.อ.สุรพงศ์กล่าวหลังสอบสัมภาษณ์เสร็จสิ้นว่า ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ จนกว่าจะประกาศชื่อผู้ผ่านการสอบ รวมทั้งต้นสังกัดก็ยังไม่ทราบว่าตนมาสมัครเป็น ผอ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย

...

ด้านนายปุณณพัฒน์ มหาลี้ตระกูล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา กล่าวว่า จากการเปิดรับสมัครและรับโอนข้าราชการเพื่อดำรงตำแหน่ง ผอ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย มีผู้เข้ารอบพิจารณา 14 คน คัดกรองจนเหลือ 1 คนที่มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์แนวคิดทัศนคติ คือ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ สังกัดตำรวจสันติบาล ส่วนคนอื่นไม่ผ่านคุณสมบัติเพราะเป็นผู้อำนวยการระดับต้น หรือพันตำรวจเอกมาไม่ถึง 3 ปี เป็นต้น พ.ต.อ.สุรพงศ์เข้าสอบสัมภาษณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว รอเสนอเลขาธิการศาลยุติธรรมพิจารณาและจะประกาศผลสอบในเว็บไซต์ศาลยุติธรรมต่อไป ส่วนกำลังหน่วยตำรวจศาล 40 คน ตาม พ.ร.บ.ตำรวจศาล ยังไม่ได้จัดสอบเพราะต้องรอผ่านกระบวนการตรากฎหมายก่อน

ต่อมาเวลา 17.30 น. นายปุณณพัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการศาลยุติธรรม ลงนามประกาศให้ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เป็นผู้ผ่านการสอบคัดเลือกและรับโอนเป็น ผอ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย ส่วนการเริ่มปฏิบัติหน้าที่อยู่ระหว่างเงื่อนไขการโอนย้ายระหว่างหน่วยราชการ มีภารกิจ คือรับหน้าที่กำกับดูแลเจ้าหน้าที่ รปภ.ศาล 1,700 นายทั่วประเทศ กำกับดูแลศูนย์ควบคุมติดตามตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยที่สวมกำไลข้อเท้า หรือกำไลอีเอ็ม และเตรียมวางโครงสร้างเพื่อรองรับเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล 40 นายที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

สำหรับประวัติการศึกษาของ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ปัจจุบันอายุ 43 ปี จบการศึกษา ร.ร.นายร้อยตำรวจ รุ่น 51 พ.ศ.2540 และเป็นหัวหน้ารุ่น จบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต ม.สุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ.2547 จบปริญญาโท สังคมศาสตรมหาบัณฑิต อาชญาวิทยาและงานยุติธรรม ม.มหิดล พ.ศ.2544 เนติบัณฑิต สมัยที่ 62 พ.ศ.2552 ประวัติการรับราชการ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ทองหล่อ 2 ปี (ต.ค.42-มี.ค.44) รอง ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร 3 ปี (ก.พ.54-ก.พ.57) ผกก.ฝ่ายธุรการและกำลังพล สำนักงานจเรตำรวจ 1 ปี (ก.พ.58-พ.ค.59) ผกก.กลุ่มงานส่งเสริมและประสานงานวิจัย กองวิจัย 2 ปี (พ.ค.59-มี.ค.61) ผกก.3 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 (มี.ค.61-ปัจจุบัน) มีประวัติการฝึกอบรม หลักสูตรกระโดดร่ม ชั้น 3 บช.ตชด. หลักสูตรต่อต้านปราบปรามการก่อความไม่สงบ บช.ตชด. หลักสูตรวิทยากรการสอบสวนคดีอาญา สถาบันส่งเสริมงานสอบสวน หลักสูตรสารวัตร รุ่น 76 สถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ และหลักสูตรผู้กำกับการ รุ่น 85 ร.ร.นายร้อยตำรวจ