หลังจากมีการเปิดใช้สะพานลอยรถยนต์ข้ามแยกเกษตรไปเมื่อเร็วๆนี้ ล่าสุดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต–สะพานใหม่–คูคต เตรียมจะเปิดใช้สะพานลอยรถยนต์ข้ามแยกรัชโยธินเพิ่มอีกแห่ง

สะพานแห่งนี้รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงจะจัดการจราจรอย่างไร “รายงานวันจันทร์” จะพาไปฟังคำชี้แจงจาก พ.ต.อ.ภาณุเดช สุขวงศ์ รอง ผบก.น.2

----------------------------

ถาม-สะพานข้ามแยกรัชโยธิน กำหนดเปิดใช้งานเมื่อไหร่

พ.ต.อ.ภาณุเดช–จะเปิดใช้งานตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 4 ก.พ.นี้เป็นต้นไป โดยตัวสะพานลอยรถยนต์ก่อสร้างติดกับโครงสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียว ขนาด 2 ช่องจราจรแยกทิศทางไปกลับ แนวสะพานยกข้ามแยกรัชโยธิน ไปตามแนวถนนพหลโยธิน ระหว่างซอยพหลโยธิน 27 ถึงซอยพหลโยธิน 33 ความยาวประมาณ 400 เมตร ขณะนี้ได้สั่งการให้ตำรวจจราจรในพื้นที่รับผิดชอบ และใกล้เคียง รับทราบแผนการเปิดใช้สะพานลอยรถยนต์ข้ามแยกรัชโยธินแล้ว รวมถึงประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อให้ผู้ใช้เส้นทางได้ทราบแล้ว

...

ถาม-สะพานจะส่งผลดีต่อการจราจรอย่างไรบ้าง

พ.ต.อ.ภาณุเดช–สำหรับรถทางตรงบนถนนพหลโยธิน ทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก สามารถวิ่งขึ้นสะพานข้ามแยกโดยไม่ต้องติดสัญญาณไฟจราจร ช่วยลดจังหวะสัญญาณไฟรถทางตรง เวลาที่ลดลงจะไปเพิ่มให้กับจังหวะสัญญาณไฟรถบนถนนพหลโยธิน และถนนรัชดาภิเษก ที่จะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก อย่างไรก็ตาม อาจจะส่งผลกระทบต่อการจราจรบริเวณฝั่งขาออกที่บริเวณแยกเสนา และฝั่งขาเข้าที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าวในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็น ที่อาจจะรับรถจากแยกรัชโยธินไม่ทัน ขณะนี้ที่แยกเสนามีโครงการก่อสร้างสะพานลอยรถยนต์ข้ามแยก ซึ่ง รฟม.แจ้งว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งานเดือน มี.ค.นี้ เมื่อมีการเปิดใช้งานสะพานครบทั้ง 3 แห่ง การระบายจราจรผ่านทางแยกจะดีขึ้น ฝุ่นละอองเป็นพิษก็จะเบาบางลง

ถาม-อนาคตจะมีการปรับเปลี่ยนการจัดจราจรแต่ละทางแยกหรือไม่

พ.ต.อ.ภาณุเดช-จุดกลับรถชั่วคราวที่เปิดใช้งาน อาจจะต้องปรับเปลี่ยน โดยให้มากลับใต้สะพานลอยรถยนต์ข้ามแยกแทน เพื่อลดปัญหาการตัดกระแสจราจร รวมถึงจุดทางเดินข้ามถนนด้วย ที่จะต้องการปรับให้เหมาะสมและปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้เดินเท้า คาดว่าหลังจากเปิดใช้สะพานลอยรถยนต์ข้ามแยกครบทั้ง 3 แห่ง ปริมาณรถส่วนหนึ่งที่เลี่ยงจากถนนพหลโยธินไปใช้ถนนวิภาวดี จะกลับมาใช้เส้นทางเดิมเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณรถบนถนนวิภาวดีก็จะลดลง ส่งผลดีทำให้การจราจรติดขัดลดลง อย่างไรก็ตาม ได้กำชับตำรวจจราจรในพื้นที่และใกล้เคียงติดตามประเมินสถานการณ์ทุกวัน หากพบปัญหาจุดใดจะได้ปรับแก้ได้ทันที.